ความเดิมตอนที่แล้ว รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 3 ผมกับหนึ่งออกจากที่พักช่วงเย็น นั่งรถไฟ MRT ไปสุดสายสีแดงที่สถานี Xiangshan เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ภูเขาเซี่ยงซาน พวกเราเดินขึ้นเขาไปถ่ายรูปนครไทเปช่วงพระอาทิตย์ตกดิน และช่วงหัวค่ำ ก่อนเดินกลับลงมาแล้วไปต่อที่ตึกไทเป 101 เพื่อหาข้าวเย็นทาน ปิดท้ายทริปวันที่ 3 ด้วยการไปแวะไปดูโทโทโร่ที่ร้าน Donguri Republic ในห้าง Att 4 Fun
ทริปวันที่ 4 เป็นวันสุดท้ายของการมาเที่ยวไต้หวันในครั้งนี้ โดยตั้งใจไปเก็บตกสถานที่ยอดนิยมอย่างอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค และแวะร้านชาไข่มุกร้านแรกของไต้หวันที่นั่น ไฮไลท์ของวันที่ 4 อยู่ที่การไปขึ้นกระเช้าเหมาคง ใครที่ไม่ได้ไปขึ้นกระเช้าที่ทะเลสาบสุริยันจันทราสามารถมาขึ้นที่นี่แทนได้ ดีงามไม่แพ้กัน ปิดท้ายด้วยการไปทานปลาดิบที่ตลาดปลา และบินกลับเชียงใหม่ครับ
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค กับร้านชาไข่มุกร้านแรกของไต้หวัน
การไปอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คสามารถนั่ง MRT ไปลงที่สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall แล้วออกประตูทางออก 5 เดินมาเราก็จะพบกับ National Theater and Concert Hall ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ สวยงามและแปลกตา โดยเฉพาะสิ่งที่ซ้อนเป็นชั้น ๆ ใต้หลังคามันดูโดดเด่นมาก
สิ่งปลูกสร้างบริเวณอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คมีหลายจุด ตรงกลางจะเป็นลานที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกับสิ่งปลูกสร้าง วันที่ผมไปเป็นวันอังคารมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก
ผมกับหนึ่งตรงดิ่งไปที่อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค ตอนดูจากระยะไกลเหมือนไม่ใหญ่มาก แต่พอไปดูใกล้ ๆ อลังการเหมือนกัน ตัวอาคารสูง 70 เมตร บันไดทางขึ้นมีจำนวน 89 ขั้นตามอายุของนายพลเจียงไคเช็ค
ข้างในมีรูปปั้นของท่านนายพลเจียงไคเช็ค สังเกตด้านหลังจะมีตัวหนังสืออยู่ 3 คำ ได้แก่ จริยธรรม ประชาธิปไตย และวิทยาศาสตร์ บริเวณด้านหน้ารูปปั้นทั้ง 2 ข้างจะมีทหารยืนเฝ้าเวรยามอยู่ โดยจะมีการเปลี่ยนเวรทุกต้นชั่วโมงตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:00
เสร็จจากการเยี่ยมชมรูปปั้นท่านนายพล ผมกับหนึ่งไปต่อที่ร้าน Chun Shui Tang เป็นร้านชาไข่มุกร้านแรกของไต้หวัน ที่แนะนำให้ลองแวะมาชิมดู
ร้าน Chun Shui Tang จะอยู่ในตัวอาคาร National Concert Hall ถ้าดูจากรูปด้านบนตัวอาคารจะมีหลังคาสีเหลือง ใต้บันไดทางขึ้นจะมีช่องทางเข้าอยู่ เดินเข้าไปที่ช่องนั้นจะเจอร้าน Chun Shui Tang ถ้าเห็นโต๊ะอาหารไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะที่นี่เป็นทั้งร้านอาหาร และร้านขายชาไข่มุกครับ
กระเช้าเหมาคง – อยากลอยขึ้น ลอยลงให้มาที่นี่
ที่เที่ยวต่อไปของเรา คือ แหล่งปลูกชาเหมาคง (Maokong) ตั้งอยู่บนยอดเขาต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไป ซึ่งกระเช้าปิดให้บริการทุกวันจันทร์ ใครจะไปนั่งกระเช้าต้องวางแผนดูวันดี ๆ ด้วยนะครับ การเดินทางต้องนั่ง MRT ไปลงที่สถานี Taipei Zoo สุดสายสีน้ำตาล เดินออกทางออก 2 จากนั้นเดินไปอีก 350 เมตร ก็จะถึงสถานีกระเช้าเหมาคง (Maokong Gondola)
การขึ้นกระเช้าเหมาคง เราสามารถใช้บัตร Easy Card จ่ายค่าโดยสารได้ ค่าโดยสารจากจุดที่ผมขึ้นไปจนถึงสถานีเหมาคง ราคา 120 NTD สามารถเติมเงินได้ที่สถานีกระเช้า การเดินทางด้วยกระเช้าจะแวะรับส่งผู้โดยสาร 2 สถานี คือ สถานี Taipei Zoo South และ สถานี Zhinan Temple ปลายทางเป็นสถานี Maokong
การเดินทางจากสถานีต้นทางไปถึงสถานีเหมาคงใช้เวลา 30 นาที สามารถนั่งดูบรรยากาศธรรมชาติ และตัวเมืองได้แบบเพลิน ๆ และแล้วกระเช้าก็พาเรามาถึงสถานีเหมาคง ตอนที่มาถึงประมาณบ่าย 3 โมง ใช้เวลาเที่ยวที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมงก็โอเคแล้ว
แหล่งปลูกชาเหมาคง พื้นที่จะเป็นภูเขาอากาศดี เหมาะแก่การมาเดินเล่นแบบชิล ๆ ชมธรรมชาติ คนไทยมาที่นี่เยอะเหมือนกัน ร้านค้าต่าง ๆ ก็จะมีร้านอาหารและรัานน้ำชา ใครไม่ชอบจิ่บน้ำชาก็แวะทานไอศกรีมชาเขียวได้
จากสถานเหมาคงเดินมาเรื่อย ๆ ประมาณ 1.3 กม.จะเจอ Taipei Tea Promotion Center เป็นพิพิธภัณฑ์ชา ข้างในจะจัดแสดงอุปกรณ์คั่วชาสมัยก่อน และมีร้านที่ขายชาแห้งอยู่ข้างใน
ผมกับหนึ่งเดินมาถึงแค่ Taipei Tea Promotion Center เพราะคิดว่าถ้าเดินไปต่อไม่น่าจะมีอะไรแล้ว นอกจากร้านน้ำชา เราจึงตัดสินใจเดินกลับไปที่สถานีเหมาคงครับ ก่อนกลับจะมีทางเดินไม้ให้ขึ้นไปถ่ายรูปวิว
พวกเราขึ้นกระเช้ากลับไปยังสถานีต้นทางช่วง 5 โมงเย็น พอดีกับเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า เลยได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ จากบนกระเช้า
ใครที่ไม่ได้ไปขึ้นกระเช้าที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา แนะนำให้มาขึ้นกระเช้าที่นี่แทน เพราะ 1) อยู่ในกรุงไทเปเดินทางสะดวกด้วย MRT 2) ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่แพง และ 3) สามารถจ่ายเงินด้วยบัตร Easy Card ได้
ตลาดปลาไทเป – คุ้มค่าเซ็ตปลาดิบ
ปิดท้ายทริปวันที่ 4 ที่ตลาดปลาไทเป แวะมาทานข้าวเย็นที่นี่ ใครอยากกินปลาดิบ ซูชิ หรืออาหารทะเลราคาไม่แพงให้ลองมาที่นี่ โดยนั่งรถไฟ MRT มาลงที่สถานี Xingtian Temple แล้วนั่ง Taxi ต่อมา ค่า Taxi ประมาณ 80 NTD
ในตลาดปลาเข้ามาจะเห็นบ่อเลี้ยงสัตว์ทะเลเยอะแยะมากมาย เดินต่อไปจะเห็นโซนขายอาหาร ที่ผมเดินไปดู คือ ชั้นวางซูชิที่ขายเป็นแพ็คสามารถซื้อ แล้วเอาออกไปยืนทานข้างนอกได้ บางโซนจะมีทำอาหารทะเลแบบสด ๆ
ในคลิป Gowentgo ทีมงานมาโดนอาหารทะเลในตำนานเซ็ตละ 1,280 NTD ที่นี่ (ดูรูปด้านล่างประกอบ)
ดูจากปริมาณแล้วผมกับหนึ่งแค่ 2 คนไม่น่าทานหมด เราเลยไปที่ชูชิบาร์ (แบบยืนทาน) แล้วสั่ง ซูชิเป็นเซ็ตแทนเซ็ตละ 600 NTD ของหนึ่งเป็นข้าวหน้าปลาแซลม่อน ราคาผมจำไม่ได้
ซูชิของที่นี่จะเป็นแบบญี่ปุ่นเลย คือ ไม่มีวาซาบิเพิ่มให้ เพราะเซฟเขาทาวาซาบิใต้เนื้อปลาไว้แล้ว ผมเลยเอาวาซาบิในข้าวปลาแซลมอนของหนึ่งแทน เดี๋ยวมันจะจี๊ดไม่ถึงใจ การที่เราสั่งเป็นเซ็ตเราจะได้ซุปมิโสเพิ่มครับ ที่น่าตกใจ คือ ชามมันใหญ่มาก ตอนแรกที่เขายกมาให้นึกว่าจะชาร์จตังค์ผมเพิ่ม แต่ที่ไหนได้มันแถมในเซ็ตอยู่แล้วครับ ซุปมิโสะที่ได้มานี้เป็นซุปมิโสะทะเลอร่อยมากครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นปลาซาบะ หรือปลาทูน่า แต่ข้างในซุปมันมีก้างปลาแบบติดเนื้อให้เราทานด้วย
เสร็จจากทานข้าวเย็นที่ตลาดปลาไทเป ผมกับหนึ่งไปต่อที่ตลาดกลางคืนกงกวน (Gongguan Night Market) เพื่อดูรองเท้าว่าราคาถูกอย่างที่ร่ำลือกันหรือไม่ เท่าที่ลองไปดู Nike Adidas และ Onitsuka Tiger ราคาไม่หนีจากบ้านเรามาก ที่ราคาถูกว่าจริง ๆ จะเป็น New Balance ยังไงก็ลองไปเช็คกันดู
Early Check-out เกือบตกเครื่องบิน !!!
จากตลาดกงกวน ผมกับหนึ่งเดินทางกลับเข้าที่พัก ตอนแรกนึกว่าต้องบินกลับเชียงใหม่วันที่ 6 ธ.ค. แต่ที่ไหนได้ไฟล์ทบินกลับของเรา คือ วันที่ 5 ตอนตี 3 ในตอนนั้นที่ผมเหลือบดูนาฬิกาวันที่ 4 เวลา 23:30 คือมันเหลือเวลาอีกแค่ 3 ชม.ครึ่งเครื่องบินก็จะออกแล้ว
ผมกับหนึ่งต้องรีบเก็บของออกจากที่พักภายในครึ่งชั่วโมง เที่ยงคืนพอดีที่เราออกจากที่พัก ผมเลยแจ้ง CiCi โฮสต์ Airbnb ว่าเราต้องขอ Early Check-out เพราะเข้าใจผิดคิดว่าวันบินกลับ คือ วันที่ 6 ตอนเที่ยงคืนรถ MRT คือ หยุดให้บริการแล้ว ทางเลือกของเรามีทางเดียว คือ ต้องโบกรถ Taxi จากแถวที่พักเพื่อไปสนามบินเถาหยวน
โชคดีที่ยังมีเวลาเหลือให้เราได้หายใจหายคอบ้าง การเดินทางจากเมืองไทเปไปสนามบินใช้เวลา 30 นาที ค่า Taxi โดนไป 1,200 NTD พวกเราไปถึงสถานบินประมาณ 00:40 ที่น่าเสียดาย คือ เราซื้อของฝากน้อยมาก เพราะกะจะซื้อวันสุดท้าย เลยต้องหาร้านค้าในสนามบินเพื่อซื้อของฝากแทน ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมเช็คเวลาขากลับดี ๆ ด้วยนะครับ
ปิดท้าย Day 4
ทริปวันสุดท้ายของการเที่ยวไต้หวัน ผมกับหนึ่งเก็บตกสถานที่เที่ยวในเมืองไทเปยอดนิยมอย่างอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค โดยนั่ง MRT ไปลงสถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall ไปดูรูปปั้นนายพลเจียงไคเช็ค เสร็จแล้วแวะทานชาไข่มุกที่ร้าน Chun Shui Tang ร้านชาไข่มุกร้านแรกของไต้หวัน
จากนั้นนั่ง MRT ไปต่อที่สถานี Taipei Zoo (สุดสายสีน้ำตาล) และเดินไปที่สถานีกระเช้าลอยฟ้า เพื่อไปเที่ยวแหล่งปลูกชาเหมาคง ใครที่พลาดไม่ได้ไปทะเลสาบสุริยันจันทราสามารถมานั่งกระเช้าที่นี่แทนได้ เดินทางสะดวก และค่าเดินทางไม่ได้แพง 120 NTD สำหรับนั่งค่ากระเช้า ที่แหล่งปลูกชาเหมาคง เราสามารถแวะไปนั่งจิ่บชา ทานข้าว หรือจะเดินเล่นถ่ายรูปแบบชิล ๆ ก็ได้ ขากลับตอนเย็นนั่งกระเช้าดูพระอาทิตย์ตกดินฟินไปอีกแบบ
ปิดท้ายด้วยตลาดปลาไทเป นั่ง MRT มาลงที่สถานี Xingtian Temple ต่อรถ Taxi ราคา 80 NTD มาลงที่ตลาดปลา จัดซูชิปลาดิบเซ็ตพอดี ๆ 600 NTD ก่อนไปต่อที่ตลาดกลางคืนกงกวน เพื่อดูรองเท้าราคาถูก และบินกลับเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ
จบแล้วครับสำหรับชุดบทความ รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ทั้งหมด 4 ตอนใครพลาดไปติดตามย้อนหลังกันได้ที่
- ตอนที่ 1: ไทเปเหระ – ตะลอนฮว่าซาน 1914 ครีเอทีพพาร์ค วัดหลงซาน และซีเหมินติง
- ตอนที่ 2: วันเดียวเที่ยว 3 เมือง – ตะลุยหมู่บ้านแมว สือเฟิ่น และจิ่วเฟิ่น
- ตอนที่ 3: ฟิตพลังขา พาขึ้นเขาเซี่ยงซาน บุกร้านโทโทโร่
- ตอนที่ 4: ไทเปเวย์ไหนดี – เก็บตกอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค ขึ้นกระเช้าเหมาคง แล้วตรงไปตลาดปลา
ขอบคุณสำหรับการติดตาม หากบทความนี้เป็นแรงบันดาลใจ หรือข้อมูลอ้างอิงสำหรับการไปเที่ยวไต้หวัน ก็อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
