รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

ความเดิมตอนที่แล้ว รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 1 ผมกับหนึ่งเดินทางจากเชียงใหม่ไปถึงไต้หวัน พวกเรานั่งรถไฟจากสนามบินมาถึง Taipei Main Station เพื่อหาข้าวเช้าทาน และต่อด้วยการไปเดินเล่น Huashan 1914 Creative Park เพื่อรอเวลาเช็คอินเข้าที่พัก ตอนกลางคืนเราแวะไปไหว้เจ้าที่วัดหลงซาน และปิดท้ายทริปวันแรกที่ถนนคนเดินย่าน Ximending

สำหรับทริปวันที่ 2 พวกเราตั้งใจที่จะออกไปเที่ยวนอกเมืองดูบ้าง มีหลายที่ที่น่าสนใจ ในแผนการเดินทางตั้งต้นเรากะจะไปทะเลสาบสุริยันจันทรากัน แต่ดูจากค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายแล้วน่าจะหนักพอสมควร ผมลองคำนวณคร่าว ๆ ไปกลับสองคนน่าจะหมดเกือบ 5,000 NTD เลยเปลี่ยนแผนไปที่หมู่บ้านแมว (Cat Village) แทนครับ

การเดินทางไปหมู่บ้านแมวจะเป็นทริปที่ไม่มีอยู่ในไกด์บุ๊คเล่มที่ผมแนะนำ พูดง่าย ๆ คือ ต้องไปลองผิดลองถูกกันเอาเอง โดยอาศัยข้อมูลจาก Pantip ช่วย ซึ่งการเดินทางที่ผมเลือก คือ รถไฟท้องถิ่น (TRA) ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นั่งจาก Taipei Main Station ไปลงที่สถานีโฮ่วโถง (Houtong)

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
เส้นทางรถไฟไป Houtong Cat Village

ขอแชร์เรื่องการซื้อตั๋วนะครับ จริง ๆ แล้วเราสามารถใช้บัตร Easy Card ขึ้นรถไฟ TRA ได้ปกติ แต่ด้วยความที่สถานที่มันไม่มีในไกด์บุ๊ค ผมเลยไม่มั่นใจว่าเราจะต้องขึ้นรถไฟฝั่งไหน และลงสถานีอะไร เลยใช้วิธีไปต่อคิวซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีเอา โดยบอกกับพนักงานขายตั๋วว่าไป Cat Village (เอารูปให้ดู) เค้าก็จะออกตั๋วมาให้ แต่มันก็เป็นภาษาจีนอ่านไม่ออก เลยเดินไปชานชาลาแบบงง ๆ อาศัยถามคนไต้หวันเอา แต่ให้ชัวร์สุดแนะนำให้ถามนายสถานี (พนักงานที่คอยแจ้งว่ามีรถไฟกำลังมา) เค้าสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เลยอุ่นใจไปครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ตั๋วรถไฟไปโห่วโถง

ความดีงามอย่างหนึ่งของรถไฟท้องถิ่นไต้หวัน คือ เราสามารถเช็คเวลาที่รถจะมาถึงชานชาลาได้จาก Google Map ช่วยให้เรารู้ว่ารถไฟจะออกกี่โมง และไปถึงจุดหมายกี่โมง

และแล้วเราก็มาสถานี Houtong สถานีรถไฟที่มีรูปแมว คน และก็ลิง ชื่อโฮ่วโถงแปลว่า “ถ้ำลิง” สมัยก่อนจะเป็นถ้ำและมีลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก ในยุครุ่งเรือง คือ ยุคถ่านหินว่ากันว่าเมือง Hongtong นั้นสามารถผลิตถ่านหินได้มากถึง 220,000 ตันต่อปี แต่ในช่วงปี 90 ถ่านหินได้หมดความนิยมลงทำให้ผู้คนย้ายออกไปหาอย่างอื่นทำหมด เหลือเพียงแต่เหมืองร้าง และชาวบ้านไม่กี่คน

ในช่วงปี 2008 มีอาสาสมัครองค์กรที่รักแมวอยากช่วยให้ชีวิตแมวจรจัดของที่นี่ดีขึ้น จึงโพสท์รูปแมวไปบนอินเทอร์เน็ต และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เมือง Houtong กลายเป็นที่รู้จักจากคนรักแมวทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำหรับหลายคนที่มาเที่ยวไต้หวัน

Houtong – ส่องหมู่บ้านแมว แอ่วแม่น้ำจีหลง

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

สถานี Houtong ตกแต่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับแมวจริง ๆ ครับ มีรูปตัวการ์ตูนแมวอยู่เต็มไปหมด รวมถึงกระดิ่งแมวขนาดใหญ่วางเรียงรายตามจุดต่าง ๆ เรียกได้ว่าถูกใจคนรักแมวแน่นอนครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

ภาพที่มองลงไปจากสถานี Houtong คือ ร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ ตอนแรกผมนึกว่าฝั่งนี้เป็นหมู่บ้านแมว แต่จริง ๆ มันเป็นฝั่งพิพิธภัณฑ์ถ่านเหมือง และแม่น้ำจีหลง (Keelung) หมู่บ้านจะอยู่ฝั่งตรงข้าม (ต้องหันหลังกลับ)

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

จุดแรกที่เราแวะมาดูกันคือแม่น้ำจีหลงครับ บริเวณแม่น้ำบรรยากาศสดชื่น และตัวแม่น้ำเองก็เป็นสีมรกตสวยงาม

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
แม่น้ำจีหลง

คลิปของ “อาสาพาไปหลง” บอกว่าถ้ามาให้ลองแวะเอาเท้าไปจุ่มน้ำเล่นได้ ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าจะลงไปใกล้ ๆ แม่น้ำได้หรือเปล่า แต่มีชาวไต้หวันคนหนึ่งเค้าลงไปถ่ายรูป ผมก็เลยตามไปบ้าง

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

ข้าง ๆ แม่น้ำจีหลงจะมีเหมืองร้าง และอาคารที่ใช้สำหรับขึ้นไปบนสะพานเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำ ซึ่งตัวสะพานจะถูกออกแบบมาให้มีรางคล้ายกับรางรถไฟสำหรับใช้ขนถ่านหินข้ามแม่น้ำ สุดปลายทางของสะพานจะเป็นพิพิธภัณฑ์เหมืองถ่าน ซึ่งผมไม่ได้ลองแวะเข้าไปดู

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

เสร็จจากการถ่ายรูปแม่น้ำจีหลง เราก็เดินย้อนกลับมาเพื่อไปยังหมู่บ้านแมวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ ทางเชื่อมระหว่างสถานี Houtong กับหมู่บ้านแมว ทำเป็นลำตัวแมวเก๋ไปอีกแบบครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

เนื่องจากเวลาที่ผมไปเป็นเวลาเที่ยงตรง อากาศค่อนข้างร้อน แดดแรง เหล่าน้องแมวจะหลบตัวอยู่ตามที่ร่ม หรือในร้านค้ามากกว่า ใครอยากไปหมู่บ้านแมวแนะนำให้ไปตอนบ่าย น่าจะเห็นแมวออกมาเพ่นพ่านเยอะกว่าช่วงเวลาที่ผมไป

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
เหล่าแมวเหมียวที่โฮ่วโถง

ในหมู่บ้านแมว ก็จะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ หรือคาเฟ่เล็ก ๆ น่ารัก

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

หลังจากเดินในหมู่บ้านแมวได้สักพัก ตอนเที่ยงเราก็แวะเข้าไปหาอะไรทานในคาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีน้องแมวประจำร้านอยู่ตัวหนึ่งขนสีส้ม ท่าทางเป็นมิตรกระโดดขึ้นโต๊ะมาสำรวจเราว่ามีอะไรให้กินหรือเปล่าตามประสามแมว ๆ แต่พอเจ้าของร้านเรียกปุ๊บ น้องแมวรีบกลับไปอยู่ที่เค้าเตอร์ทันที นั่งจ๋องเผื่อจะได้เล่นกับเจ้าของบ้าง

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

มื้อเที่ยงที่เราสั่งมาทานจะเป็นชุดแพนเค้กราดน้ำผึ้ง ทานคู่กับเบค่อน กับมันฝั่งทอด และแก้เลี่ยนด้วยสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต เช็ตนี้ราคา 180 NTD

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

หมู่บ้านแมวขนาดไม่ได้ใหญ่มาก สามารถเดินเล่นชิล ๆ 1 ชั่วโมงก็ครบแล้วครับ จุดหมายของเราต่อไป คือ จิ่วเฟิ่น (Jiufen) อยากไปถ่ายรูปโรงน้ำชาอาเม่ย ต้นแบบโรงน้ำชาในอนิเมะเรื่อง Spirit Awayed ตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย 3 เลยคิดว่าเรายังมีเวลาไปเที่ยวที่อื่นก่อนไปจิ่วเฟิ่น ผมกับหนึ่งจึงนั่งรถไฟไป สือเฟิ่น (Shifen) ซึ่งที่นั่นคนนิยมไปปล่อยโคมตรงทางรถไฟ และมีน้ำตกสือเฟิ่นที่ได้สมญานามว่า “น้ำตกไนแองการาแห่งไต้หวัน” (The Niangara Falls of Taiwan) ครับ การเดินทางจากโฮ่วโถง (Houtong) ไปสือเฟิ่น (Shifen) โดยรถไฟจะใช้เวลาประมาณ 35 นาที คราวนี้เราใช้บัตร Easy Card จ่ายค่าโดยสาร

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

Shifen ปล่อยโคมขึ้นฟ้า พาดูน้ำตก

หากพูดถึงสือเฟิ่น (Shifen) ไฮไลท์ของที่นี่ คือ การปล่อยโคมตรงทางรถไฟ หากดูคลิปใน Youtube จะเห็น Youtuber หลายคนจะมารีวิวอาหารข้างทางรถไฟโดยเฉพาะปลาหมึกยักษ์ทอด และมาเขียนคำอธิษฐานปล่อยโคมลอยกัน

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ปล่อยโคมที่สือเฟิ่น

บรรยากาศที่สถานีสือเฟิ่นช่วงที่ผมมาถึงจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติ (เจอคนไทยเยอะมาก) และชาวไต้หวัน มาทำ 2 กิจกรรม คือ ปล่อยโคม และไปชมน้ำตกสือเฟิ่น ใครอยากดูบรรยากาศสตรีทฟู้ด และการปล่อยโคมที่สือเฟิ่นสามารถดูในคลิปด้านล่างได้ครับ อาหารที่ผมแนะนำที่สือเฟิ่น คือ ปลาหมึกยักษ์ทอดชุบแป้งทอด ชิ้นใหญ่เคี้ยวเพลิน ไม่เหนียวเหมือนปลาหมึกบ้านเรา ราคา 150 NTD

พวกเราตั้งใจจะไปชมน้ำตกสือเฟิ่นก่อน แล้วค่อยกลับมาถ่ายการปล่อยโคม เพราะที่น้ำตกมีเวลาปิดทำการ คือ 16:30 ซึ่ง Gowentgo พลาดไปไม่ทัน วิธีไปน้ำตกสือเฟิ่นจะเดินไป หรือนั่งรถ Taxi ไปก็ได้ระยะทาง 1.2 กม. ค่า Taxi ครั้งละ 100 NTD

จากจุดที่รถจอด เราต้องเดินต่อไปสักพักจะเจอสะพานไม้ข้ามแม่น้ำจีหลง เพื่อไปชมน้ำตกสือเฟิน ถ้าดูจากแผนที่แบบภูมิประเทศใน Google Map น้ำตกสือเฟิ่นเป็นทางน้ำของแม่น้ำจีหลงที่เราเห็นที่หมู่บ้านแมวโฮ่วโถงครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
สะพานข้ามแม่น้ำจีหลงเพื่อไปดูน้ำตกสือเฟิ่น

ต้องบอกว่าคุ้มค่าที่แวะมาดูครับ น้ำตกสือเฟิ่นบรรยากาศธรรมชาติสวยงาม และเย็นสดชื่น ตรงน้ำตกจะมีจุดชมวิวหลายแห่ง เพื่อให้เห็นน้ำตกในมุมต่าง ๆ ครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
น้ำตกสือเฟิ่น
รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ทางเดินไปจุดชมวิวต่าง ๆ
รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
น้ำตกสือเฟิ่น

หลังจากชมน้ำตกเสร็จ พวกเราก็นั่ง Taxi กลับมาที่สถานีรถไฟสือเฟิ่น เพื่อเก็บบรรยากาศการปล่อยโคม ขอบอกว่าพวกผมไม่ได้ปล่อยโคมกัน เพราะต้องรีบไปต่อที่จิ่วเฟิ่นครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

จุดหมายสุดท้ายของทริปวันที่ 2 คือ จิ่วเฟิ่น ตอนนั้นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ถ้าจะไปด้วยรถไฟต้องรอรถมาเวลา 18:30 เพื่อไปสถานี Ruifang แล้วหารถต่อไปจิ่วเฟิ่น ซึ่งผมดูแล้วมันใช้เวลา และต้องนั่งรถหลายต่อกว่าจะไปถึงจิ่วเฟิ่นก็คงมืดค่ำแล้ว เราจึงลองหารถ Taxi ที่สือเฟิ่น ปรากฏว่าค่า Taxi จากสือเฟิ่นไปจิ่วเฟิ่น 2 คนจ่ายคนละ 500 NTD ตอนนั้นก็ลังเลว่าจะไปดีมั้ย คนขับก็เสนอทางเลือกที่ 2 คือ เดี๋ยวเขาจะหาคนมาช่วยหารอีก 2 คน (ไป 4 คน) จะได้จ่ายคนละ 250 NTD

ผมกับหนึ่งนั่งรอในรถ Taxi ประมาณ 30 นาที คุณลุงคนขับก็กลับมาพร้อมกับคู่รักชาวมาเลย์ เราก็เลยได้ไปจิ่วเฟิ่นในราคาคนละ 250 NTD สำหรับการเดินทางไปจิ่วเฟิ่นทางจะเป็นเขาคดเคี้ยวพอสมควร อารมณ์เหมือนเส้นทางไปปาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ซึ่งประหยัดเวลาไปได้เยอะครับ การคุยกับคนมาเลย์เพื่อนร่วมทริปทำให้ผมทราบว่าคนมาเลย์ใช้ภาษาจีนเป็นหลักในการสื่อสาร พวกเขาไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมาก เค้าบอกเป็นภาษาที่สองแต่ใช้น้อยมาก เช่นเดียวกับภาษามาลายู

ก่อนถึงจิ่วเฟิ่น คุณลุงคนขับ Taxi จะเชียร์ให้เราเหมารถจากจิ่วเฟิ่นเพื่อกลับไทเป คนละ 350 NTD 2 คนก็ 700 NTD โดยเขาจะจอดรถรอให้เราไปเที่ยวจิ่วเฟิ่นประมาณ 2 ชม. เราก็เลยตกลงจ่ายกัน เพราะด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทั้งวัน และก็ไม่รู้ว่าถ้าไปเสี่ยงดวงกับรถบัสขากลับจะมีที่นั่งหรือเปล่า ตอนที่ผมไปถึงจิ่วเฟิ่นก็ประมาณ 6 โมงเย็นฟ้านี่มืดสนิทแล้ว

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
คุณลุง Taxi ที่พาเรามา Jiufen

เรามีเวลาเดินในจิ่วเฟิ่นได้ถึง 2 ทุ่ม ถามว่าพอมั้ยตอบว่า “พอครับ” เพราะตอน 2 ทุ่มร้านรวงก็ทยอดปิดหมดแล้วครับ และแล้วความเหนื่อยล้าก็เล่นงานหนึ่งทำให้หนึ่งปวดหัว ผมพาหนึ่งไปแวะพักร้านน้ำชาตรงตีนถนน ก่อนออกไปซื้อยาพาราที่เซเว่น

Jiufen เมืองโคมแดงในฝัน แรงบันดาลใจ Spirited Away

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ร้านน้ำชาที่เราแวะพักตรงตีนถนน

ต้องบอกว่า Jiufen old street เป็นถนนคนเดินแบบขั้นบันไดไต่ขึ้นเขาไป และผู้คนสัญจรเยอะมาก (ดูรูปประกอบด้านล่าง) ทำให้ผมไม่สามารถเร่งความเร็วได้มากนัก และด้วยความรีบผมจึงไม่ได้ถ่ายรูปร้านค้าตามข้างทาง ปรากฏว่าพอไปถึงเซเว่น ยาพาราไม่มีขายเหมือนในบ้านเราครับ พนักงานขายบอกให้ผมลองไปที่ร้านวัตสันที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ผมต้องถามคนขายย้ำอีกรอบว่าใช่ยาแก้ปวดหัวหรือไม่ เพราะกล่องยาเป็นภาษาจีนครับ ซึ่ง Google Translate ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ราคายาก็แพงกล่องละ 110 NTD มี 10 เม็ด ใครไปเที่ยวแนะนำให้พกยาพาราจากบ้านเราไปเลยนะครับ ถูกกว่าเยอะ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ทางเดิน Jiufen Old Street

หลังจากซื้อยาเสร็จผมก็กลับมาที่โรงน้ำชา ใช้เวลาไปกลับ 30 นาที หนึ่งได้ทานยาเราก็นั่งพักดื่มชาอีก 30 นาที (แนะนำชาอู่หลง) จนอาการหนึ่งดีขึ้นเราค่อยออกไปที่ Jiufen old street บรรยากาศจิ่วเฟิ่นยามค่ำคืนสวยมากครับ โดยเฉพาะการเปิดโคมไฟตลอดทางเดิน

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

เนื่องจาก Jiufen เป็นเมืองที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับอนิเมชันชื่อดัง Spirited Away ของ Studio Ghibli ทำให้เราพบเห็นร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับการ์ตูนของ Studio Ghibli เยอะมาก ที่นิยมกันคือเจ้าผีไร้หน้า (No Face) กับโตโตโร่ (Totoro)

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2

หลังจากแวะร้านขายของ เราถามคนแถวนั้นว่าร้านน้ำชาอาเม่ย (A Mei Tea House) อยู่ตรงไหน (ร้านนี้เป็นร้านต้นแบบของโรงน้ำชาในเรื่อง Spirited Away) ด้วยความไม่รู้ว่าจะต้องไปถ่ายรูปร้านน้ำชามุมสวย ๆ ตรงไหนเราก็เดินไปถ่ายที่ร้านแบบตรง ๆ แบบนี้เลยครับ เดี๋ยวมาเฉลยทีหลังนะครับว่ามุมสวย ๆ ต้องไปถ่ายตรงไหน

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ร้านน้ำชาอาเม่ย (A Mei Tea House)
รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ร้านน้ำชาอาเม่ย (A Mei Tea House)

เนื่องจากเหลือเวลาไม่มาก เราก็เลยรีบเดินกันต่อจนถึงสุดถนนมีเป็นร้านขนมบัวลอยเผือกร้านหนึ่ง เลยลองแวะเข้าไปทานกันเพราะเป็นเมนูแนะนำของ Jiufen ราคาถ้ายละ 50 NTD มีให้เลือกแบบเย็น และร้อน ในรูปผมสั่งแบบร้อนมา 1 ถ้วย ที่ร้านจะมีห้องให้เราเข้าไปนั่งทานได้ หากใครมาช่วงเย็น ๆ จะเห็นทิวทัศน์ของเมืองจิ่วเฟิ่น เสียดายตอนที่ผมมาก็มืดมองอะไรไม่เห็นแล้ว

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
ขนมบัวลอยเผือกร้านสุดถนน Jiufen Old Street

ทานขนมบัวลอยเผือกเสร็จ พวกเราก็เดินย้อนกลับมาแวะดูร้านค้าต่าง ๆ ในจิ่วเฟิ่นซึ่งกำลังจะปิดกันหมดแล้ว เวลาตอนนั้นเกือบ ๆ 2 ทุ่ม ใครอยากเห็นบรรยากาศร้านค้าในจิ่วเฟิ่นดูได้จากคลิปด้านล่างครับ ขออธิบายเพิ่มเติม Jiufen Old Street มันจะเป็นทางเดินบันไดเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ พอถึงจุด ๆ หนึ่งมันจะเป็นทาง 4 แยก ซึ่งจะถ้าเลี้ยวซ้ายกับขวาจะเป็นที่ราบมีร้านค้าต่าง ๆ มากมาย

ขากลับโชคดีมากที่สังเกตเห็นจุดถ่ายรูปร้านน้ำชาอาเม่ยแบบในไกด์บุ๊ค ขอเฉลยตำแหน่งของมันนะครับ มันจะอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านน้ำชาอาเม่ย ต้องเดินบันไดขึ้นไปถ่าย (คนต่อคิวถ่ายเยอะมาก) ก็เลยได้รูปสวย ๆ กลับมาฝากกันครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
โรงน้ำชาอาเม่ย
รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
โรงน้ำชาอาเม่ย

ปิดท้ายด้วยรูปโคมสวย ๆ ตรงตีนถนน ด้วยแสงไฟจากโคมแดง ผนวกกับบรรยากาศยามค่ำคืน มันทำให้ผมรู้สึกว่าจิ่วเฟิ่นมันเหมือนเมืองในฝันที่จะติดตาตรึงใจผมไปอีกนาน ใครที่มาเที่ยวไต้หวันผมแนะนำให้มาจิ่วเฟิ่นสักครั้ง (ในช่วงที่อากาศดีฝนไม่ตก) แล้วคุณจะไม่ผิดหวังครับ

รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
บรรยากาศตีนถนน Jiufen
รีวิวแบกเป้เที่ยวไต้หวัน 4 วันแบบชิล ๆ ตอนที่ 2
บรรยากาศตีนถนน Jiufen

ปิดท้าย Day2

วันเดียวเที่ยว 3 เมือง ทริปวันที่ 2 เราตัดสินใจออกไปเที่ยวนอกเมืองไต้หวันกัน 2 ใน 3 เป็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในไกด์บุ๊ค (หมู่บ้านแมว และสือเฟิ่น) ต้องอาศัยข้อมูลการเดินทางจากใน Pantip เอา เริ่มจากนั่งรถไฟจาก Taipei Main Station ไปที่โฮ่วโถง (Houtong) 1 ชม. ที่นั่นมีที่เที่ยว 2 ที่ คือ 1) แม่น้ำจีหลง และพิพิธภันฑ์ถ่านหิน (ซึ่งผมไม่ได้แวะไป) และ 2) หมู่บ้านแมว ใครอยากเล่นกับแมวแนะนำให้ไปช่วงบ่าย ๆ หรือวันที่แดดไม่แรง

ถัดจากหมู่บ้านแมว ผมนั่งรถไฟไปต่อที่สือเฟิ่น (Shifen) เมืองที่คนนิยมมาปล่อยโคม ที่นี่มี Street Food ดี ๆ เยอะ แนะนำปลาหมึกยักษ์ชุบแป้งทอด นอกจากปล่อยโคมแล้วคุณยังสามารถไปชมน้ำตกสือเฟิ่นที่ได้สมญานาม “น้ำตกไนแองการาแห่งไต้หวัน” น้ำตกอยู่ห่างจากสถานี 1.2 กม. สามารถนั่ง Taxi ไปได้ ราคา100 NTD

ปลายทางสุดท้าย คือ จิ่วเฟิ่น (Jiufen) เมืองที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับอนิเมะเรื่อง Spirited Away ของค่าย Studio Ghibli การเดินทางไปจิ่วเฟิ่นของผมคือหา Taxi จากสือเฟิ่น ราคาคนละ 500 NTD แต่ถ้าหาคนมาหารนั่ง 4 คนจะได้ราคา 250 NTD ใช้เวลาเดินทางไม่นาน 30 นาทีก็ถึง ส่วนขากลับไทเปก็ใช้บริการ Taxi คันเดิมนั่งกลับมากัน 4 คนตกคนละ 350 NTD สะดวกตรงที่ไม่ต้องไปเสี่ยงดวงกับรถบัสที่คนน่าจะเยอะ และรถขากลับค่อนข้างติด

มาจิ่วเฟิ่นที่ต้องแวะไปถ่ายรูปเลย คือ โรงน้ำชาอาเม่ย และเดินกิน Street Food แต่ถ้าอยากจิบน้ำชาก็มีให้เลือกหลายร้าน แนะนำให้ลองชาอู่หลง อีกร้านที่แนะนำคือบัวลอยเผือกอยู่สุดถนน Jiufen Old Street ใครอยากมาจิ่วเฟิ่นผมแนะนำให้มาช่วงเย็น ๆ เพื่อจะได้จิ่บชาชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่ทริปของผมค่อนข้างโหดหน่อย คือ เราไปแวะสือเฟิ่นก่อนทำให้ช่วงที่มาถึงจิ่วเฟิ่นฟ้าก็มืดแล้ว แลกกับการได้เที่ยว 3 ที่ในวันเดียว ก็ลองเอาไปพิจารณากันดู แต่การเที่ยวแบบนี้ก็ทำให้ผมกับหนึ่งเดี้ยงในวันต่อมา เพราะใช้พลังในการเดินเยอะมากครับ

อ่านต่อ ตอนที่ 3: ฟิตพลังขา พาขึ้นเขาเซี่ยงซาน บุกร้านโทโทโร่

Comments

comments