ทุกวันนี้ทุกคนต่างพูดถึงแต่การทำธุรกิจออนไลน์ ประเด็นที่มือใหม่มักถาม คือ “เราจะทำเงินบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร” หรือ “เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะลองสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาบนอินเทอร์เน็ต แล้วขายมันออกให้คนซื้อ”
ก่อนที่จะไปพูดถึงแนวทางที่ผู้ประกอบการใช้ทำเงินออนไลน์ ผมอยากถามคุณว่าทัศนคติของคุณก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจออนไลน์นั้นเป็นอย่างไร
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ คือ ทุกคนต่างคิดแต่เรื่องที่จะทำเงินทั้งนั้น พวกเขามองอินเทอร์เน็ตเป็นเหมือนขุมทอง ที่ใครหน้าไหนก็ได้เดินมาพร้อมพลั่วแล้วสามารถขุดทองออกไปได้ทันที
นี่ไม่ใช่ยุคตื่นทองนะ!!! ให้ตายสิ
คุณต้องปรับทัศนคติใหม่ คือ อินเทอร์เน็ตไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากโค้ด หรือแม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ที่ใช้เขียนโค้ดเหล่านั้น
แต่อินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นมาจาก “ผู้คน”
ใช่มันถูกสร้างขึ้นจากคุณ คุณอ่านไม่ผิดหรอก
ดังนั้นถ้าคุณต้องการที่จะทำเงินบนอินเทอร์เน็ต จำไว้เลยว่าจริง ๆ แล้วอินเทอร์เน็ตไม่ได้ทำเงินให้คุณ แต่เป็น “ผู้คน” ที่กำลังอ่านงานของคุณ ฟังเสียงของคุณ หรือดูวิดีโอของคุณอยู่ต่างหาก ไม่ว่าคุณจะเผยแพร่ผลงานในรูปแบบใดก็ตาม อินเทอร์เน็ต คือ ช่องทางที่ง่ายที่สุดที่คุณจะใช้สื่อสารกับ “ผู้คน”
คำถามที่พบบ่อย คือ
“เราจะทำเงินจากบล็อก พ็อดคาสท์ หรือยูทูปได้อย่างไร”
นี่ไม่ใช่คำถามที่ถูกต้อง ที่ถูกต้อง คือ
“ทำอย่างไรที่เราจะสามารถขยายฐานแฟนได้มากขึ้น ซึ่งผู้คนเหล่านั้นรักงานที่เราทำ และสุดท้ายคือตัดสินใจซื้อของจากเรา”
นี่หมายความว่าอย่างไร?
อินเทอร์เน็ตไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย คุณสามารถทำเงินจากช่องทางออนไลน์ได้เหมือนกับที่คุณเคยทำในชีวิตจริงนั่นแหละ แต่ข้อได้เปรียบของเว็บอยู่ที่ขนาดครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแฟนเพจของคุณมีผู้ติดตาม 30,000 คน เวลาที่คุณโพสต์ข้อความไป มันก็เหมือนกับการที่คุณไปยืนพูดในห้องบรรยายขนาดใหญ่
ซึ่งแน่นอนว่ามันเหมือนกับในชีวิตจริง ตรงที่มีบางคนสนใจคุณมาก บางคนไม่ก็สนใจเลย และบางคนอาจนั่งหลับอยู่หลังห้อง แต่อย่างไรก็ตามความสามารถในการขยายฐานแฟนทำให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก แต่โดยเนื้อแท้ตัวมันเองก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากไปกว่านั้น
ที่คุณต้องโฟกัสเป็นอย่างแรกเลย คือ
การสร้างกลุ่มผู้ชม หรือฐานแฟนของคุณเอง โดยการช่วยเหลือหรือให้ความรู้อย่างเต็มที่ จากนั้นเรื่องทำเงินจะตามมาทีหลัง
“อย่างนั้น เราจะทำเงินบนโลกออนไลน์ได้อย่างไร”
เมื่อคุณสร้างฐานแฟนของคุณขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นบล็อก พ็อดคาสท์ หรือวิดีโอ คุณสามารถสร้างสินค้า/บริการที่กลุ่มแฟนของคุณต้องการ และเสนอขายให้กับคนเหล่านั้นได้ ต่อไปนี้ คือ 7 แนวทางที่ดีที่สุดในการทำเงินบนโลกออนไลน์
1. สร้าง Information Product ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้คนมีทักษะ
หากคุณเป็นผู้ชำนาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง Information Product คือ แนวทางทำเงินที่น่าสนใจสำหรับคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นเชฟที่สามารถทำอาหารให้คนทานมีสุขภาพดีในราคาประหยัดได้ ทำไมคุณไม่ลองเขียนสูตรอาหารขึ้นมาในรูปแบบของ ebook หรือแม้กระทั่งการอัดวิดีโอ ทำคอร์สออนไลน์สอนทำอาหารเพื่อสุขภาพ
ในปัจจุบันการทำ ebook หนังสือเสียง และคอร์สเรียนออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะต้นทุนต่ำแต่มีมูลค่าสูง อีกทั้งเทคโนโลยียังเอื้อต่อการผลิตและส่งมอบสินค้าประเภทนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับ ebook และหนังสือเสียง เพียงแค่คุณมีโน้ตบุ๊คสักตัวคุณก็สามารถผลิตสินค้าเหล่านี้ เพื่อวางขายผ่านร้านค้าออนไลน์ เช่น Ookbee ได้แล้ว ส่วนการอัดวิดีโอคุณสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ หรือกล้องดิจิทัลถ่ายทำ ก่อนนำมาตัดต่อในคอมพิวเตอร์แล้ววางขายบน Skilllane, Couse Square หรือ Talad Panya
อย่างไรก็ตามความท้าทายของการผลิต Information Product อยู่ที่การค้นหาความต้องการในตลาดให้พบ โดยดูว่าทักษะของคุณนั้นมีตลาดรองรับหรือไม่ ยังอยู่ใน Trend หรือล้าสมัย รวมถึงคู่แข่งในตลาดมีมากหรือน้อย ช่องว่างตรงไหนที่คุณสามารถแทรกตัวเข้าไปได้ ทั้งหมดคุณต้องศึกษาและวางแผนให้ดีก่อนลงมือผลิตครับ
2. ขายสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้คน
ทำไมคุณไม่สร้างเว็บไซต์ หรือเปิดร้านค้าออนไลน์แล้วลองสั่งของมาขายดูล่ะ ในตลาดยังมีความต้องการอยู่อีกมากที่รอคอยการเติมเต็ม อย่างไรก็ตามหากคุณมีจิตวิญญาณความเป็นนักประดิษฐ์ หรือนักออกแบบ คุณอาจลองสร้าง Product ของคุณขึ้นมาเอง โดยสำรวจความต้องการจากฐานแฟนของคุณ
3. จัดอีเว้นท์ หรือคอร์สสัมมนา
ทำไมคุณไม่ลองจัดอะไรสักอย่างที่ให้ผู้คนมารวมตัว และทำกิจกรรมร่วมกันดูล่ะ การจัดคอร์สสัมมนาเป็นที่นิยมมากทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ นอกเหนือจากการทำเงินแล้ว คุณยังได้สัมผัสกับแฟน ๆ ของคุณเองในโลกออฟไลน์ แน่นอนว่ามันให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าโลกออนไลน์ คุณจะได้รู้จักคนใหม่ ๆ ได้แชร์ไอเดีย ประสบการณ์ รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าโดยตรง นั่นทำให้คุณมีโอกาสเห็นแนวทางการทำเงินในอนาคตมากขึ้น
4. นำเสนอบริการ หรือให้คำแนะนำ
ตัวคุณเอง คือ แหล่งข้อมูล ที่ผู้คนติดตามคุณก็เพราะเนื้อหาคุณภาพดีและฟรีที่คุณเผยแพร่ผ่านบล็อก ยูทูป หรือ Platform อะไรก็ตามแต่ พวกเขาเหล่านั้นจะมีความสุขเมื่อได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากคุณมากยิ่งขึ้น ดังนั้นข้อมูลทุกอย่างที่คุณเผยแพร่ออกไปให้กับแฟน ๆ ของคุณ แม้จะฟรีแต่ก็มีคุณค่า นั่นคือการมอบคุณค่าให้กับผู้คนเหล่านั้น ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น หรือทำงานได้ดีขึ้น
ผมเชื่อว่าทุกคน “มีของ” คิดง่าย ๆ ลองนึกถึงสิ่งที่คุณรู้ และมีบางคนยอมจ่ายเงินให้กับคุณ เช่น ถ้าคุณเป็นพนักงานประจำ ความรู้และทักษะบางอย่างของคุณ คือ สิ่งที่เจ้านายคุณจ่ายเงินซื้อทุกวัน ดังนั้นถ้าคุณเริ่มต้นธุรกิจของคุณเอง ทักษะหรือความรู้เหล่านี้ คุณสามารถนำมาใช้ทำเงินได้ เช่น ถ้าคุณเก่งทางด้านวิชาการ คุณผันตัวเองเป็นติวเตอร์สอนให้ผู้ที่สนใจสอบผ่านได้ หรือถ้าคุณเก่งทางด้านออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ คุณอาจรับจ้างออกแบบ ขายคอร์สสอน หรือรับเป็นที่ปรึกษาการทำเว็บไซต์ให้กับภาคธุรกิจก็ยังได้
5. ติดโฆษณา
เมื่อเว็บไซต์ หรือบล็อกของคุณเติบโตทั้งในแง่จำนวนผู้ชม และทราฟฟิก คุณสามารถทำเงินได้จากการแสดงโฆษณาใน Platform ของคุณเองได้ โดยนำโฆษณาจาก Google AdWords หรือประกาศรับโฆษณาจากธุรกิจต่าง ๆ (ที่มีสินค้า/บริการสอดคล้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์คุณ) มาติดแสดง
ยิ่งเว็บไซต์ของคุณมีทราฟฟิกมากเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะทำเงินจากโฆษณาก็มากตามไปด้วย แน่นอนว่าโฆษณายังสามารถใช้ได้กับพ็อคคาสท์ และยูทูปได้เช่นกัน คล้ายกับรายการทีวิและวิทยุในอดีต ที่เจ้าของรายการจะได้เงินค่าโฆษณาจากบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการเผยแพร่สินค้า/บริการให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้รับรู้
6. ลง Affiliate หรือหาพันธมิตร
ถ้าคุณไม่มีสินค้าหรือบริการที่จะขาย หรือแม้กระทั่งไม่มีทราฟฟิกเพียงพอที่จะสร้างรายได้จากโฆษณา คุณยังมีแนวทางอื่นที่สามารถทำเงินได้จากการสื่อสารระหว่างคุณกับฐานแฟน โดยการใช้ Affiliate หรือการโปรโมทสินค้า/บริการให้กับธุรกิจอื่น (แปะลิงก์) เช่น Amazon หรือ Lazada โดยคุณจะได้รับเงินในรูปแบบค่านายหน้า เมื่อมีผู้ชมในเว็บไซต์ของคุณกดลิงก์เข้าไปสั่งซื้อสินค้า/บริการในเว็บไซต์ของธุรกิจนั้น ๆ
หากคุณเคยอ่านเรื่องราวของ Pat Flynn เขาเคยเปิดเผยรายได้ในเดือนพฤษภาคม 2014 ว่า รายได้ 38,000 เหรียญ จาก 83,000 เหรียญ นั้นมาจากการเป็นหุ้นส่วนกับ Bluehost ธุรกิจที่ให้บริการโฮสติ้ง ที่มาของรายได้นั้นเรียบง่ายมาก เนื่องจาก Pat ใช้บริการของ Bluehost และเห็นว่าดีงาม ดังนั้นเขาจึงแนะนำบริการของ Bluehost ให้กับแฟน ๆ ที่ติดตามเว็บไซต์เขา โดยการแปะลิงก์ในเว็บไซต์ แต่ละครั้งที่มีคนมาสั่งซื้อบริการของ Bluehost ผ่านเว็บของ Pat เขาจะได้เงินค่าแนะนำครั้งละ 65 เหรียญ ซึ่งคนที่สั่งซื้อก็ไม่ถูกชาร์จเงินเพิ่มแต่อย่างใด
7. ผสมผสานแนวทางต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
หากคุณลงมือทำ และเริ่มทำเงินได้จาก 6 แนวทางดังกล่าวทางใดทางหนึ่ง เมื่อนั้นคุณจะเริ่มสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับสิ่่งที่คุณทำอยู่ และเริ่มเดาได้ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ รวมถึงการต่อยอดไปสู่การทำเงินในแนวทางอื่น ๆ จะเริ่มง่ายมากขึ้น ซึ่งทำให้คุณมีกระแสรายได้มากกว่า 1 ทาง เช่น ผู้ประกอบการที่ใช้ยูทูปทำเงิน จะเริ่มจากการหารายได้จากวิดีโอที่ตัวเองทำขึ้น ก่อนต่อยอดไปสู่การสร้างสินค้า/บริการ เพื่อเสนอขายให้กับแฟน ๆ ที่ติดตาม
จำไว้ว่า!
การทำเงินออนไลน์ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรพิเศษ แนวทางที่ผู้คนใช้ทำธุรกิจออนไลน์ก็เหมือนกับที่พวกเขาทำแบบออฟไลน์มาหลายปีแล้ว แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ เมื่อนำอินเทอร์เน็ตเข้ามาจับกับธุรกิจ ธุรกิจจะมีความสามารถในการขยายตัวที่ทรงพลังมากขึ้น
ความสามารถของคุณที่จะทำเงินได้บน Platform ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บล็อก, พ็อดคาสท์ และยูทูปนั้น ขึ้นอยู่กับการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวคุณเองกับฐานแฟนของคุณ ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณต้องทำ คือ สร้างฐานแฟน ช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้น พร้อมกับสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานั้น ดังนั้นอย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ถ้าคุณมีแฟน ๆ ที่รักคุณเมื่อไหร่ ก็จะมีคนมาอุดหนุนคุณเมื่อนั้นครับ
