ผมได้มีโอกาสขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่ช่วงเดือนธันวาคมปี 2015 และมองหา Co-Working Space เผื่อว่าเราจะเจอสตาร์ทอัพท้องถิ่น มีโอกาสพูดคุยกัน และนำมาเขียนเป็นบทความลง START IT UP บ้าง ผมลองค้นหาดูใน Google ก็เจอหลายที่ ที่เจ๊งไปแล้วก็มีอยู่ไม่น้อย
ในเชียงใหม่มี Co-Working Space อยู่หลายที่ครับ และเนื่องจากเป็นเมืองที่ Digital Nomad จากทางฝั่งตะวันตกนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว และทำงานไปด้วยในตัว ดังนั้นจึงมีหลายที่ที่คราคร่ำไปด้วยชาวต่างชาติ
ผมเลยเลิกหวังที่จะเจอคนทำสตาร์ทอัพในท้องถิ่น คุณฮู้ด (ผู้ร่วมก่อตั้ง BeNeat) บอกกับผมว่า Co-Working Space ในเชียงใหม่เกิดยาก เพราะต้องแข่งกับร้านกาแฟที่มี Wi-Fi ฟรีให้ใช้อยู่เต็มไปหมด ซึ่งร้านกาแฟก็มีอยู่เยอะเสียด้วยในเมืองเชียงใหม่ ลูกค้าสั่งกาแฟแก้วเดียวก็สามารถนั่งทำงานได้ทั้งวันแล้ว
แต่ด้วยรูปแบบนั้น อาจจะเหมาะกับ Digital Nomad สาย Solopreneur, Blogger หรือพวก Programmer ที่สามารถแบกโน้ตบุ๊คเครื่องเดียวไปนั่งทำงานไม่แยแสกับใครได้ แต่พอเป็นสตาร์ทอัพที่ต้องทำงานกันเป็นทีม มันควรมีที่ ๆ ดีกว่านั้น
ช่วงต้นปี 2016 ผมได้ขึ้นมาเชียงใหม่อีกครั้งเพื่อทำ BeNeat เราหาที่ทำงานกันเป็นทีมยากมาก มีแค่ 2 ครั้งที่ผมกับทีมแวะไปนั่งทำงานกัน คือ ร้าน Kaweh Cafe ซึ่งตอนนี้ก็ปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนใหญ่เรานั่งทำงานอยู่ที่พักของคุณฮู้ดเป็นหลัก
เราเจอคนทำสตาร์ทอัพที่เชียงใหม่แล้ว
เชียงใหม่ได้เป็นเมืองหลักทางภาคเหนือในช่วงที่รัฐบาลกระจายโครงการ Startup Thailand ออกไปตามภูมิภาคต่าง ๆ และผมก็ได้มีโอกาสเข้าร่วม Event นี้ เราได้มีโอกาสไปออกบูธ BeNeat ให้คนที่มาร่วมงานได้รู้จัก โดยมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ STeP เป็นโต้โผหลักที่สนับสนุน และผลักดันให้ผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการกับ STeP ได้มาแสดง Product กัน
นี่คือครั้งแรกที่ผมได้เจอกับกลุ่มคนที่ทำสตาร์ทอัพในเชียงใหม่มากที่สุด อย่างที่ผมบอกไปว่าผมมาจากสุรินทร์ ผมแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเชียงใหม่เลย การพบกันครั้งนี้เลยเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ผมตระเวนไปตามบูธต่าง ๆ เพื่อทำความรู้จักและสอบถามไอเดียธุรกิจ
นอกจากได้เพื่อนใหม่แล้ว งานนี้ยังมีเหตุการณ์ที่ผมภูมิใจอีกอย่าง คือ คุณฮู้ด CEO ของ BeNeat ไปแข่งประกวด Pitch แล้วได้รางวัลที่ 1 กลับมา บูธเราเลยได้ความสนใจจากสื่อจำนวนมาก ต้องขอขอบคุณ STeP ที่พาเราไปออกบูธในงาน Startup Thailand มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
เรายังได้รู้จักกับทีมของน้องตง Flipped ที่ได้ที่ 2 และทีมของอิ๊คคิว Nabour ที่ได้ที่ 3
รางวัลที่ได้รับจากการ Pitch ทำให้ทีมมีสิทธิ์เข้าใช้งาน The Brick Startup Space ซึ่งเป็นของ STeP แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 6 เดือน
หลังจากจบงาน Startup Thailand ที่เชียงใหม่ เราต่างพากันแยกย้าย และไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่ ผมอยากรู้ความคืบหน้าของแต่ละทีม เผื่อว่าเราพอที่จะมีอะไรช่วยเหลือกันได้บ้าง ผมได้แต่ภาวนาว่าเราคงจะได้มีโอกาสเจอกันอีกบ่อย ๆ
The Brick Startup Space สถานที่ที่พวกเราได้มาเจอกันอีกครั้ง
กันยายน ปี 2016 เป็นเดือนแรกที่ The Brick Startup Space เปิดทดสอบให้บริการ ผมมีโอกาสได้แวะไป และเจอกับผู้ประกอบการต่าง ๆ มากมาย ทั้งสายสตาร์ทอัพ และสาย SMEs สำหรับ The Brick Startup Space บรรยากาศที่ผมสัมผัสได้ชัดเลย คือ ความเป็นมิตร และความอบอุ่น เพราะส่วนใหญ่เป็นคนไทย และหลายคนผมเจอมาจากงาน Startup Thailand
เราเจอคนที่พร้อมทักทายถามไถ่กันว่าเป็นไงบ้าง คุณกำลังทำธุรกิจอะไรอยู่ ไม่ใช่มีแต่ Coding Machine ก้มหน้าก้มตาละเลงคีย์บอร์ดแบบไม่สนใจโลกแบบที่เราเจอมา ผู้ประกอบการบางคนไม่ได้ทำสายเทคโนโลยี ผมอยู่แต่ในธุรกิจสาย IT นี่จึงเหมือนเป็นโลกใหม่สำหรับผม และผมพร้อมที่จะแชร์เรื่องราวของผมให้กับพวกเขา
จุดยืนของ The Brick Startup Space ที่ก่อตั้งขึ้นมาค่อนข้างท้าทายพอสมควร นั่นคือการเป็น Co-Working Space สำหรับสตาร์ทอัพคนไทย และผู้ที่มีไอเดียทางธุรกิจ แน่นอนว่าการเป็น Co-Working Space น้องใหม่นั้นมีความท้าทาย และปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
ทั้งหมดต้องขอบคุณผู้หญิงคนนี้ครับ คุณปรารถนา คชสีห์ หรือน้องหนึ่ง ผู้จัดการคนเก่งแห่ง The Brick Startup Space ที่อยู่เบื้องหลังความราบรื่นทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ด้วยความที่เป็นพนักงานประจำเพียงคนเดียว หน้าที่ของผู้จัดการ The Brick Startup Space ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นพนักงานต้อนรับตรงเคาเตอร์ หรือคนอธิบายละเอียดเรื่องการเข้าใช้สถานที่ แต่ยังดูแลและส่งมอบประสบการณ์การให้บริการทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการนั้นได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด ตั้งแต่ที่นั่งทำงาน น้ำ ไฟ แอร์ อินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ ไปจนถึงกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำ
หน้าที่สำคัญของน้องหนึ่งอีกอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง คือ การเป็น Connector หรือผู้เชื่อมประสานระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี พูดคุยกับผู้ประกอบการและคนทำสตาร์ทอัพใน The Brick Startup Space อยู่บ่อย ๆ ทำให้น้องหนึ่งมีองค์ความรู้ที่จะช่วยแนะนำให้คนที่สนใจเรื่องเดียวกันลองไปคุยกันได้ ดังนั้นหากคุณเป็นลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาแล้วยังไม่รู้จักใคร ลองมาคุยกับน้องหนึ่ง และฟังคำแนะนำจากเธอดู ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้หุ้นส่วนหรือเพื่อนใหม่ที่ชอบธุรกิจคล้ายกันกับคุณก็เป็นได้
จากใจคุณหนึ่ง ผู้จัดการ The Brick Startup Space
ในมุมมองของน้องหนึ่ง Co-Working Space ไม่ใช่แค่สถานที่ที่คนเข้ามานั่งทำงานไปวัน ๆ แต่ผู้คนมาเพื่อหา Connection หรือมาเพื่อหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านกาแฟไม่สามารถให้กับคุณได้
ในส่วนของผู้จัดการเองในฐานะ Connector ก็ต้องคอยอำนวยสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของสถานที่ให้บริการ แต่เป็นเรื่องของการเชื่อมคนสู่คน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสูดสุดนั่น คือ การสร้าง Community สตาร์ทอัพในเชียงใหม่ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ดังนั้นทาง The Brick Startup Space จึงมีกิจกรรมดี ๆ อย่างที่เราได้เพิ่งจัดไปอย่าง “กว่าจะเป็นสตาร์ทอัพ” ให้กับผู้ที่สนใจสตาร์ทอัพได้เข้ามาพบปะพูดคุยในเรื่องเดียวกัน เพื่อสร้าง Connection โดยคุณสามารถเข้ามาเยี่ยมเยียน หรือพูดคุยกับทีมสตาร์ทอัพที่เข้ามาใช้งาน The Brick Startup Space เป็นประจำได้ค่ะ
สตาร์ทอัพขาประจำใน The Brick Startup Space
ปัจจุบัน The Brick Startup Space กลายเป็นที่สิงสถิตของเหล่าบรรดาสตาร์ทอัพที่เป็นที่รู้จักในเชียงใหม่ หากคุณอยากรู้จักพวกเขามากขึ้นลองแวะมาพูดคุยกันได้ที่นี่ เพราะมีบางทีมที่ประจำการอยู่ ณ ที่แห่งนี้ เรามาทำความรู้จักกับทีมเหล่านี้คร่าว ๆ ได้เลยครับ
ทีม Review Chiang Mai – Platform รีวิววิถีเมืองเชียงใหม่ และกำลังมี Product ตัวใหม่อย่าง Tripzii: Platform สำหรับนักท่องเที่ยว รวบรวมสิทธิพิเศษเรื่องกิน เที่ยว พัก และไลฟ์สไตล์ (ออฟฟิศประจำที่ The Brick Startup Space)
ทีม Nabour ได้รับรางวัลที่ 3 จากการ Pitch ในงาน Startup Thailand เป็น Platform ระบบจัดการภายในนิติบุคคลง่ายๆ แบบออนไลน์ (ออฟฟิศประจำที่ The Brick Startup Space)
ทีม BeNeat ผู้สร้าง Platform บริการทำความสะอาดที่พักแบบออนดีมานด์ โดยแม่บ้านผู้เชี่ยวชาญที่ถูกคัด และฝึกฝนมาอย่างดี (เข้าไปใช้ The Brick Startup Space โดยประมาณสัปดาห์ละ 2-3 วัน)
ทีม BuddyGo กับ Platform รวมแหล่งเช่ารถ มอเตอร์ไซด์ รถยนต์ รถตู้ ที่ราคาถูกและดีที่สุด (เข้าไปใช้ The Brick Startup Space โดยประมาณสัปดาห์ละ 3-4 วัน)
ทีม Synapse Thailand (AI Tech) กับการจัดกิจกรรมดีๆ OneDay Shortcut และการอบรม Machine Learning ที่กำลังจะมีเร็ว ๆ นี้
ขอขอบคุณ คุณปรารถนา คชสีห์ ที่ให้ข้อมูลผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพใน The Brick Startup Space มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
