Uber for gas, Booster Fuels สตาร์ทอัพแนวคิดชีวิตไร้ปั๊มน้ำมัน

ผมเคยพูดถึง “Uber for X” ไปในบทความ วิธีเริ่มต้นสตาร์ทอัพสาย Sharing Economy และเมื่อเร็ว ๆ มีข่าวเกี่ยวกับสตาร์ทอัพตัวหนึ่งที่ได้รับเงินลงทุนไป 9 ล้านเหรียญ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “Uber for Gas” ไม่ต้องเดาเลยครับว่าเกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิง ชื่อของมันคือ Booster Fuels ผมของเรียกสั้น ๆ ว่า Booster ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักสตาร์ทอัพตัวนี้กันครับ

Booster ยังไม่ถึงขั้นธุรกิจ Sharing Economy (เพราะฝั่ง Supply ยังมีให้บริการแบบจำกัด และคนขับจำเป็นรับการฝึกอบรบที่เข้มงวด) แต่เป็นธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันรถแบบ On-demand ผู้ใช้เพียงแค่ลงแอพ ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ ระบุตำแหน่งที่รถจอดอยู่ เปิดครอบฝาถังน้ำมันทิ้งไว้ ภายใน 1 ชั่วโมงก็จะมีรถของ Booster วิ่งมาเติมน้ำมันให้ถึงที่โดยใช้เวลาเติมไม่ถึง 3 นาที

ธุรกิจที่แก้ปัญหาให้กับผู้ก่อตั้ง

Booster เป็นธุรกิจที่ก่อตั้งในปี 2014 ณ Seattle โดย Frank Mycroft วัย 30 ปี อดีตพนักงานของ NASA, Boing และเคยเป็นรองประธานฝ่ายกลยุทธ์ของบ. Planetary Resource ซึ่งเกี่ยวกับการสำรวจเหมืองแร่ในอวกาศ และมีผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คน คือ Diego Netto และ Tyler Raugh

การที่ Mycroft มีลูกสาว ทำให้เขาตระหนักได้ว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ซึ่งเขามองว่าการขับรถไปที่ปั๊มเพื่อเติมน้ำมันเป็นกิจกรรมที่เสียเวลาอันหนึ่งของชีวิตเลย

จากผลสำรวจของ National Association of Convenience Stores พบว่าในทุก ๆ วันชาวอเมริกันจะขับรถเข้าปั๊มน้ำมันกว่า 37 ล้านเที่ยว ในขณะที่ปั๊มมีให้บริการเพียง 127,000 แห่งเท่านั้น ซึ่ง Mycroft บอกว่านี่เป็นเรื่องที่เสียเวลามาก ๆ

“การที่ต้องออกไปเติมน้ำมันในตอนกลางคืนทำให้ผมเสียเวลาเพิ่มมากขึ้น แทนที่จะใช้เวลาเหล่านั้นอยู่กับครอบครัว ไม่ใช่อยู่กับปั๊มน้ำมัน มันเป็นปัญหาที่เรียบง่าย แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น” Mycroft กล่าว

ดังนั้น ธุรกิจ Booster จึงก่อตั้งขึ้นมา ซึ่งมีเป้าหมาย คือ การขจัดความต้องการของผู้คนที่ต้องขับรถไปยังปั๊มน้ำมันให้ได้ถึง 90% หรือมากกว่านั้น โดยมีสโลแกนติดที่เว็บไซต์ว่า “Welcome to life without gas stations” หรือขอต้อนรับสู่ชีวิตไร้ปั๊มน้ำมัน

ปัจจุบัน Booster เป็นธุรกิจที่มีมูลค่า 12 ล้านเหรียญ โดยในเดือนพฤษภาคม 2015 ธุรกิจได้รับเงินทุนรอบ Seed ไป 3.11 ล้านเหรียญ และได้รับเพิ่มอีก 9 ล้านเหรียญรอบ Series A ในเดือนมกราคม 2016

ตลาดกลุ่มเป้าหมาย

แม้ว่า Seattle จะเป็นจุดเริ่มต้นของ Booster แต่ในปัจจุบันธุรกิจได้ย้ายมาตั้งรกรากที่ Texas และ Silicon Valley เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความต้องการบริการของ Booster สูง

Booster เน้นการเป็นพาร์ธเนอร์กับธุรกิจขนาดใหญ่ โดยการนำเสนอบริการเติมน้ำมันแบบ On-demand ให้กับวิทยาเขต (Campus) ของธุรกิจเหล่านั้น ในเวลา่ 7 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น

ยกตัวอย่างเช่นใน California (Silicon Valley) Booster เริ่มต้นจากดีลกับ Chegg ธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับตำราเรียน ซึ่งมีพนักงานของ Chegg กว่า 65% ที่เป็นลูกค้าขาประจำของ Booster โดยเฉพาะในวันที่วุ่น ๆ มีรถที่ Chegg กว่า 100 คันที่ Booster เติมน้ำมันให้

ในตอนนี้ Booster ยังไม่เปิดให้บริการสาธารณะแบบเต็มตัว แต่เน้นไปที่บริษัทที่เจ้าของยอมอนุญาตให้ Booster สามารถเข้าไปเติมน้ำมันให้ถึงที่จอดรถได้ พนักงานที่ทำงานในบริษัทเหล่านี้จำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้ที่เดิมหลายชั่วโมง ดังนั้นคุณค่าที่ธุรกิจส่งมอบให้ คือ ขจัดความกังวล และช่วยประหยัดเวลา ของพนักงานเหล่านั้นโดยการเติมน้ำมันรถให้พร้อมขับ ในขณะที่พวกเขาวุ่นอยู่กับงานประจำ

Campbell หนึ่งในลูกค้าของ Booster ที่มักสั่งให้มาเติมน้ำมันให้หนึ่งครั้งต่อ 1-2 สัปดาห์ เล่าถึงประสบการณ์ว่าการเรียกใช้บริการนั้นคล้า่ยกับการเรียกรถ Taxi ของ Uber คือ คุณมีแอพในมือถือ ส่งคำร้องขอใช้บริการไป ทาง Booster จะมาหารถของคุณตามตำแหน่ง GPS ที่คุณระบุไว้ และเติมน้ำมันให้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง

การที่พนักงานของ Booster ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เกี่ยวกับการจัดการวัตถุไวไฟ การเช็คแรงดันลมยาง และบางครั้งก็มีบริการเช็ดกระจกรถให้ด้วย ทำให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลกิจกรรมเสียเวลาเหล่านี้

Business Model ของธุรกิจ

ต้นทุนของน้ำมันที่ Booster ให้บริการนั้น สามารถแข่งขันกับปั๊มน้ำมันในท้องถิ่นได้ เนื่องจากธุรกิจซื้อน้ำมันในราคาขายส่ง นอกจากนี้พวกเขายังไม่ต้องมีต้นทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเปิดให้บริการเติมน้ำมันอีกด้วย

น้ำมันที่ธุรกิจให้บริการแบ่ง 2 ประเภท คือ ไร้สารตะกั่วแบบธรรมดา กับ ไร้สารตะกั่วแบบพรีเมี่ยม (ที่ผมหาข้อมูลมาได้จะเป็น เงิน 1.73 เหรียญ และ 2.38 เหรียญต่อหนึ่งแกลลอน) โดยลูกค้าที่ใช้บริการจะได้รับใบเสร็จแจ้งยอดที่ต้องจ่ายทั้งหมดทางอีเมล์

ในตอนนี้ Booster ยังไม่มีการชาร์จค่าธรรมเนียมเพิ่มจากราคาน้ำมันที่ให้บริการ โดย Mycroft ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันขายส่ง และไม่ขอพูดถึงจำนวนพนักงานและแผนที่ธุรกิจจะใช้เพื่อเติบโต เขาต้องการอยู่ในโหมดพรางตัวจนกว่าจะถึงอนาคตอันใกล้

การออกแบบรถบรรทุกน้ำมัน

ที่ผมกล่าวไปตั้งแต่ต้นบทความว่า Booster ยังไม่ไปถึงขั้น Sharing Economy (แต่มีแนวโน้มที่จะเป็น) เนื่องจากฝั่ง Supply ยังต้องการ customize ทั้งรถบรรทุกน้ำมันที่ให้บริการ และพนักงานขับรถที่จะไปเติมน้ำมันให้ลูกค้า โดย Booster มีแผนที่จะขยายไปให้บริการเมืองอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็น คือ การเพิ่มจำนวนรถสำหรับให้บริการ

บริษัทมีรถบรรทุกน้ำมันสีม่วงให้บริการ ซึ่งถูกผลิตโดยใช้ Chassis ของ Isuzu และถูกตัดแปลงโดย SkyMark บริษัทรับออกแบบและสร้างเครื่องบินที่ใช้สำหรับเติมน้ำมันให้แก่อากาศยานที่ใช้ในกองทัพ

รถบรรทุกที่ถูกออกแบบมานั้นมีขนาดเล็กกว่ารถบรรทุกน้ำมันที่เราพบเห็นทั่วไปตามปั๊มน้ำมัน โดยรถจะมีความยาวประมาณ Suburu Outback และมีรัศมีวงเลี้ยวพอ ๆ กับ Honda Civic ทั้งหมดเพื่อให้รถสามารถเข้าไปจอดให้บริการในพื้นที่จอดรถทุกรูปแบบได้ (เช่น ที่จอดรถแบบหลายชั้น นอกจากจะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้รถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าถึงได้ ยังมีปัญหาเรื่องโครงสร้างที่เป็นคอนกรีต หรือโลหะที่ส่งผลให้การหาตำแหน่งรถจาก GPS นั้นคาดเคลื่อนได้)

โดยปกติรถจะบรรทุกน้ำมันไร้สารตะกั่วแบบธรรมดา 800 แกลลอน และแบบพรีเมี่ยม 400 แกลลอน ซึ่งสามารถเติมน้ำมันให้กับรถยนต์ 1 คันได้เต็มถังภายใน 3 นาที โดยการซื้อน้ำมันราคาส่งนั้น จะซื้อที่แหล่งขายน้ำมันที่อยู่ใกล้กับชายแดน Fort Worth-Arlington-Euless ซึ่งปั๊มน้ำมันท้องถิ่นก็ไปซื้อน้ำมันจากที่นั่นเช่นเดียวกัน

พนักงานขับขี่ที่ถูกฝึกมาอย่างดี

Cole McCurry ขับรถให้กับ Booster มาได้ 2 เดือนครึ่งแล้ว เขาเคยมีประสบการณ์ขับรถบรรทุกขนน้ำมันและแก็สมาก่อน McCurry กล่าวว่าเขาเองนั้นสมัครเข้ามาขับขี่ให้กับธุรกิจนี้จากคำชักชวนของเพื่อน

พนักงานขับไม่เพียงแต่จะต้องมีใบขับขี่พาณิชย์เท่านั้น แต่ยังต้องมีการรับรองเรื่องการขับขี่ยานพาหนะที่บรรทุกน้ำมัน หรือพวกสารอันตรายอีกด้วย ซึ่งต้องได้รับการฝึกอบรมอยู่หลายชั่วโมงทีเดียว แต่สำหรับพวกที่ขับรถบรรทุก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการให้บริการระยะทางไกล เพราะพนักงานจำเป็นต้องออกจากบ้านเป็นเวลาหลายวัน

McCurry ให้ความเห็นว่า “นี่เป็นไอเดียธุรกิจที่ดีนะ และผมก็ต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจนี้”

Comments

comments