ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับ Kevin Systrom ผู้ให้กำเนิด Instagram แอพถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลก


ข่าวการประกาศซื้อกิจการ Instagram ของ Facebook เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2012 ในราคา 1 พันล้านเหรียญ เป็นดีลที่สั่นสะเทือนวงการไอทีไปทั่วโลก

สตาร์ทอัพเล็ก ๆ ที่ดำเนินการด้วยพนักงานเพียง 13 คน ประเด็นที่น่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ความสำเร็จชั่วข้ามคืน, การประสบโชคดี หรือจำนวนผู้ใช้ที่โตแบบก้าวกระโดด แต่อยู่ที่ตัวของผู้ก่อตั้งที่พร้อมเริ่มต้นอีกครั้ง (Begin Again) ต่างหาก

ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับ Kevin Systrom ผู้ให้กำเนิด Instagram แอพถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลกPhoto credit: How Instagram Started or How Two Guys Made an App in 8 Weeks

เรื่องราวของ Instagram แสดงให้เห็นถึง Passion ของ Kevin Systrom (CEO & Co-Founder) ได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของความมุ่งมั่นที่จะสร้าง Product สักตัวให้ประสบความสำเร็จ โดยการขอเริ่มใหม่อีกครั้งกับการเขียนโปรแกรม เพื่อนำไปสู่การสร้าง Product ที่ตนเองใฝ่ฝัน แน่นอนว่าผมขอย้อนเหตุการณ์ก่อนรูปด้านบน และนี่คือเรื่องราวของ Kevin Systrom ชายผู้ให้กำเนิด Instagram

โปรแกรมเมอร์ในวัยเยาว์

Kevin เติบโตขึ้นจากเมืองเล็ก ๆ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่บ้าน และเกม Doom 2 สำหรับเด็กน้อยในวัย 12 ขวบ เป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

ภาษาแรกที่เด็กน้อยเริ่มขลุกด้วยนั้น คือ QBasic นอกจากนี้เขายังได้หัดเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Visual Basics อีกด้วย ส่วนในระดับมัธยมศึกษาแทนที่จะเรียนชีววิทยา Kevin กลับเลือกวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science)

ความผิดหวังที่สแตนฟอร์ด

มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Standford University) คือ เป้าหมายเดียวของเด็กหนุ่ม เพราะที่นี่ผูกกับบริษัทไอทีชื่อดังในซิลิค่อน วัลเลย์ ในช่วงปีแรก Kevin ตั้งใจที่จะเรียน Com Science โดยลงไป 1 คลาส แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อพบว่ามันยากมาก และเขาก็ได้เกรดไม่ดี เหตุการณ์นี้ทำให้ Kevin ตระหนักได้ว่าเขาไม่มีทางที่จะเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ดีได้เลย

Kevin บอกว่าเขาล้มเหลวกับการเรียน Com Science ดังนั้นหนุ่มน้อยจึงถอยออกมา และเปลี่ยนสายไปเรียนสาขาวิศวกรรมและวิทยาการจัดการแทน

อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงชอบการเขียนโปรแกรมอยู่ดี โดยทำโปรเจ็คง่าย ๆ สนุก ๆ เช่น ตลาดซื้อขายสำหรับนศ. (แข่งกับเครกลิสต์) และสถานีวิทยุบนอินเทอร์เน็ต ฯลฯ

ผมอยากเป็นผู้ประกอบการ

ปี 2005 Kevin ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรแกรม Mayfield Fellows ของสแตนฟอร์ด มันเป็นโครงการที่ให้นศ.ป.ตรีได้ฝึกงานกับบริษัทไอทีที่มีชื่อในซิลิค่อน วัลเลย์ เป็นระยะเวลา 9 เดือน ซึ่งจำกัดเพียงแค่นศ.ที่มีความโดดเด่น 12 คน เท่านั้น

Kevin ได้ฝึกงานกับสตาร์ทอัพพอดคาสต์ (Podcast) ชื่อ Odeo ภายหลังกลายมาเป็น Twitter เขาได้มีโอกาสพบปะ Evan (Ev) Williams, Biz Stone และ Jack Dorsey

“การได้เรียนรู้จาก Jack และ Ev ที่ Odeo ทำให้ผมอยากเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับการสื่อสารและการแบ่งปันบนโลกโซเซี่ยล”

นอกจากนี้ Kevin ยังบอกอีกว่า “งานที่ดีที่สุด คือ ถูกใช้ให้ทำทุกอย่างแม้ว่ามันจะเป็นงานเล็กน้อย หรือไม่ค่อยสำคัญก็ตาม นั่นคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้และนำจาก Odeo มาใช้กับ Instagram ในทุก ๆ วัน

ระหว่างฝึกงาน เด็กหนุ่มมีโอกาสพบกับ Sean Parker และ Mark Zuckerberg และถูกชักชวนให้ไปทำงานที่ Facebook แต่เขาก็ปฏิเสธไป

จุดประกายฝัน ณ Google

หลังสำเร็จการศึกษาในปี 2006 Kevin เริ่มงานแรกกับ Google ในตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ (Associate Product Marketing Manager) 

Kevin ทำงานกับ Google 2 ปี โดยปีแรกเขามีส่วนร่วมกับ Product หลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Google Calendar, Google Docs และ Spreadsheets เขายอมรับว่างานด้านการตลาดนั้น ทำให้เขาลืมการเขียนโปรแกรมไปจนหมดสิ้น แต่เขาได้เรียนรู้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product)

ปีที่ 2 Kevin ได้ย้ายมาอยู่ทีมพัฒนาองค์กร (Corporate Development) ซึ่งดูแลการเฟ้นหาสตาร์ทอัพ เหตุการณ์นี้จุดประกายให้เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของสตาร์ทอัพที่ตัวเองสร้างขึ้น

เริ่มต้นความฝันอีกครั้งจากงานอดิเรก

การทำงานกับทีม Corporate Development ชายหนุ่มบอกว่า “ผมเห็นผู้ประกอบการหลายคนดูท่าทางสนุกมากในการเริ่มทำบริษัท” และต่อมาเขาก็ได้ออกไปร่วมกับ Nextstop สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงานของ Google

แม้บทบาทงานประจำ คือ การตลาด แต่ช่วงกลางคืนและวันหยุดสุดสัปดาห์ บทบาทของ Kevin คือ วิศวกร โดยเขาใช้เวลาเหล่านั้นฝึกเขียนโปรแกรมจากเว็บ Codecademy ชายหนุ่มบอกว่ากิจกรรมนี้ผมเริ่มจากการทำมันเป็นงานอดิเรก แต่ทั้งหมดก็เพื่อไปสู่การสร้าง Product ตามที่ตั้งใจไว้

Burbn สตาร์ทอัพแรกของผม

ช่วงปลายปี 2009 สตาร์ทอัพ Foursquare ได้รับความนิยมอย่างมาก มันได้ปลุกกระแสแอพที่มีฟีเจอร์การ Check-in ให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนและผู้ประกอบการในซาน ฟรานซิสโก รวมถึงซิลิคอน วัลเลย์

ในช่วงต้นปี 2010 Kevin ได้วางแนวคิดการทำ Product หลายตัว หนึ่งในนั้น คือ Burbn ซึ่งเป็นแอพบน iPhone ที่ถูกเขียนขึ้นด้วย HTML5 และผู้ใช้กลุ่มแรกคือเพื่อน ๆ ของเขา

Kevin ยอมรับว่าเขาลอก Foursquare โดยนำฟีเจอร์ Check-in มาผสมผสาน (Mashup) เข้ากับแนวคิด Social ของเกม Mafia Wars ยอดนิยมของ Zynga โดยคุณสามารถ Check-in และโพสต์รูปภาพหรือวิดีโอได้ให้เพื่อน ๆ คุณดูได้ รวมถึงได้รับแต้มจากการไปแฮงเอาท์กับเพื่อน

มีเพียงสิ่งเดียวที่ Kevin ยังขาดอยู่ นั่นคือ เงิน ตอนนั้นเขายังคงทำงานประจำที่ Nextstop ชายหนุ่มต้องการเงินสดเพื่อที่ตัวเองจะได้โฟกัสการพัฒนา Burbn ได้แบบเต็มเวลา

ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับ Kevin Systrom ผู้ให้กำเนิด Instagram แอพถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลกPhoto credit: Entrepreneurial Lessons From Instagram Co-Founder Kevin Systrom

โชคดีได้เงินก้อนแรก

แน่นอนว่าเรื่องราวสตาร์ทอัพชื่อดังทั้งหลายจะไม่สมบูรณ์เลยหากปราศจากโชคเพียงเล็กน้อย สำหรับ Kevin เขาโชคดีที่ไปงานปาร์ตี้ค็อกเทลในช่วงต้นปี 2010 จัดโดย Hunch สตาร์ทอัพรายหนึ่งในซิลิคอน วัลเลย์

ที่งาน Kevin ได้พบกับนักลงทุนจาก Baseline Ventures และ Andreessen Horowitz  คือ Steve Anderson และ Marc Andreessen ทั้งคู่สนใจ Burbn และให้เงินทุนแก่ Kevin คนละ 250,000 เหรียญ

พนักงานคนแรก คือ ผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram

ในช่วงมีนาคม 2010 หลังจากได้รับเงินลงทุน Kevin ได้ลาออกจาก Nextstop และเริ่มหาคนมาร่วมทีม Mike Krieger คือ พนักงานคนแรกที่ Kevin จ้าง และกลายมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram

หนุ่มเชื้อสายบราซิลวัย 25 ปี อดีตวิศวกร Meebo เป็นผู้ใช้กลุ่มแรก ๆ ของแอพ Burbn นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเคยพบกันมาก่อนในช่วงโปรแกรม Mayfield Fellows นอกจากเป็นวิศวกรที่เก่งแล้ว Mike ยังเชี่ยวชาญการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UX Design) แบบสุด ๆ อีกด้วย

ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับ Kevin Systrom ผู้ให้กำเนิด Instagram แอพถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลกMike Krieger และ Kevin Systrom
Photo credit: $1 Billion In 2 Years: The Story Of Instagram, As Told By Its Founders

โฟกัสแค่เรื่องเดียวก็พอแล้ว

ทั้งคู่ใช้ Dogpatch Labs (Co-working space ในซาน ฟรานซิสโก) เป็นออฟฟิศ สองหนุ่มไม่พอใจแอพ Burbn เพราะมันไม่ต่างจากแอพ Check-in อื่น ๆ เลย แต่สังเกตเห็นว่าผู้ใช้ Burbn ชอบถ่ายรูปมากกว่า Check-in ดังนั้นทั้งคู่จึงโฟกัสไปที่ การถ่ายรูป

“พวกเราตัดสินใจแล้วว่าถ้าจะเปิดบริษัท เราต้องโฟกัสไปที่การทำสิ่งเดียวให้ดีที่สุด” Kevin กล่าว สองหนุ่มจึงเริ่มไล่ศึกษาแอพถ่ายภาพทุกตัวที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะแอพ Hipstamatic ที่ Kevin บอกว่ามันใช้งานได้สนุกสุด ๆ มี Filters ให้เลือกเยอะ แต่ไม่มีฟีเจอร์การแชร์รูป นี่แหละคือโอกาสทองที่จะได้ทดลองไอเดียใหม่ ๆ กัน

เริ่มต้นด้วยความผิดหวัง

เด็กหนุ่มสองคนใช้เวลาหลายเดือนช่วยกันสร้างต้นแบบซอฟต์แวร์ (Prototype) ขึ้นมาใหม่ ชื่อ Scotch มันคือบรรพบุรุษของ Instagram ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปและแชร์ให้เพื่อนดูได้ พวกเขาปล่อยมันออกไปทดสอบราว 1 อาทิตย์ แต่ก็ต้องผิดหวัง

ปัญหาของ Scotch คือ มันช้าและบั๊กส์เพียบ ประเด็นนี้เกิดจากข้อจำกัดของการใช้ HTML 5 มาพัฒนาแอพมือถือ กรณีนี้เกิดขึ้นกับแอพ Facebook บนมือถือเวอร์ชั่นแรก ๆ เช่นเดียวกัน และนั่นทำให้พวกเขาล้มเลิก Scotch อย่างรวดเร็ว

แม้ Scotch จะไม่มี Filters ทำงานช้าและอุดมไปด้วยบั๊กส์ แต่ Concept หนึ่งที่มันถูกนำไปต่อยอดทำ Instagram คือ การแชร์รูปภาพ

จุดกำเนิด Instagram

ความล้มเหลวจาก Scotch ทำให้สองคู่หูย้อนกลับมาที่ Burbn อีกครั้ง โดยทำการปรับจากแอพ HTML5 เดิมให้กลายเป็น Native App สำหรับ iPhone แต่แอพก็ยังรกเกินไป

Kevin บอกว่าเขาทำใจยากที่จะต้องเริ่มใหม่จาก 0 อีกครั้ง ดังนั้นพวกเขาจึงทำการตัดฟีเจอร์ของ Burbn ออกให้เหลือเพียง ถ่ายรูป, คอมเมนต์ และ Like พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น Instagram ซึ่งมาจาก instant กับ telegram

ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับ Kevin Systrom ผู้ให้กำเนิด Instagram แอพถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลก

Photo credit: Instagram Founder Kevin Systrom’s 30-Second Rule for App Success

How to be Perfect!!!

ตลอด 8 สัปดาห์ สองหนุ่มทำงานกันทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้ Instagram สมบูรณ์แบบมากที่สุด พวกเขาส่งแอพตัวเบต้า (Beta) ให้เพื่อน ๆ ทดสอบราว 100 คน เพื่อหาบั๊กส์และแก้ไข

นอกจากนี้พวกเขายังลดจำนวน Filters ลงจากเดิม 30 เหลือเพียง 11 ตัว การตัดสินใจนี้ไม่มีจังหวะหรือเหตุผล มีเพียงการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า และผลตอบรับจากผู้ใช้แอพตัวเบต้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งหมดเพื่อให้ได้ Product ที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ลืมที่จะปล่อยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง

เปิดตัวแบบถล่มทลาย

00.15 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2010 Instagram ถูกปล่อยออกไป ซึ่ง Mike มักชอบพูดว่า “Instagram เป็นแอพที่ใช้เวลาในการสร้างและปล่อยออกไปเพียง 8 สัปดาห์ แต่เป็น Product ที่ใช้ความพยายามมากกว่า 1 ปี”

ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับ Kevin Systrom ผู้ให้กำเนิด Instagram แอพถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลกPhoto credit: Behind Instagram’s Success, Networking the Old Way

Kevin กล่าวว่า “ผมคาดว่าเราน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสัก 6 ชั่วโมง เพื่อให้คนหาแอพนี้เจอ และนั่นคือเวลาที่พวกผมจะได้ปิดตาคู่นี้ลงเสียที” แต่เพียงในไม่กี่นาที ยอดดาวน์โหลดเริ่มหลั่งไหลเข้ามาจากผู้ใช้ทั่วทุกมุมโลก และทะลุ 10,000 คนภายในไม่กี่ชั่วโมง และในเช้าวันถัดมาพวกเขาต้องรีบแจ้นไปออฟฟิศเพื่อเพิ่มความจุรองรับผู้ใช้ให้กับ Instagram

สัปดาห์แรกผ่านไป Instagram มียอดดาวน์โหลดทั้งหมด 100,000 ครั้ง และอีกสัปดาห์ถัดมาเพิ่มอีก 100,000 ดาวน์โหลด และในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2010 ชุมชน Instagram มีผู้ใช้มากถึง 1 ล้านคน

หนึ่งพันล้านเหรียญ!!!

ในเดือนมกราคม 2011 Instagram ได้รับเงินทุน Series A จำนวน 7 ล้านเหรียญ จากนักลงทุนชั้นนำหลายราย เช่น Jack Dorsey, Chris Sacca, Baseline Ventures, Benchmark Capital และ Adam D’Angelo ผู้ร่วมก่อตั้ง Quora ทำให้ Instagram เป็นบริษัทที่มีมูลค่า 20 ล้านเหรียญ

ในเดือนเมษายน 2012 มีการลงทุนรอบ Series B จำนวน 50 ล้านเหรียญ จาก Sequoia Capital, Thrive Capital, Greylock Partners, Benchmark Capital, และ Baseline Ventures ทำให้บริษัทมีมูลค่า 500 ล้านเหรียญ

เพียงแค่ 4 คืนหลังจากนั้น เหล่านักลงทุนต่างลิงโลดกับผลตอบแทนที่พวกเขาได้ลงทุนไป เมื่อ Facebook ประกาศคว้า Instagram มาครอง ในวันที่ 12 เมษายน 2012 ด้วยเงิน 1 พันล้านเหรียญ และนั่นทำให้ Kevin กลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ทันที จากการถือหุ้น Instagram 40%

ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง สำหรับ Kevin Systrom ผู้ให้กำเนิด Instagram แอพถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลกPhoto credit: Instagram Worth $35 Billion, Facebook Stock $91, Citi Says

Instagram ต้องการเป็นอะไร !!!

Kevin Systrom ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในปี 2012 ว่า “เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน เขาและ Mike เริ่มสร้าง Instagram ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการสื่อสารและการแบ่งปันของโลกใบนี้”

“ในอดีตผู้คนต่างหยิบภาพขึ้นมาดู เพราะมันเป็นสิ่งบันทึกความทรงจำ ซึ่งโฟกัสไปที่อดีต แต่สำหรับ Instagram เราโฟกัสที่ปัจจุบัน”

นอกจากนี้ Kevin ยังเผยวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ของ Instagram ในอนาคตว่า “เราไม่ต้องการเป็นเพียงบริการแชร์รูป (Photo-sharing service) แต่เราต้องการเป็นก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่บนโลกอินเทอร์เน็ต”

ตัวเลขที่น่าสนใจ

  • 300 ล้านคนต่อเดือน คือ จำนวนผู้ใช้ Instagram ประจำ
  • กว่า 75 ล้านคน คือ จำนวนผู้ใช้ Instagram ในแต่ละวัน
  • 86% ของแบรนด์ชั้นนำของโลก ใน Top 100 มีบัญชี Instagram
  • 1 พันล้านเหรียญ คือ จำนวนเงินที่ Facebook ซื้อ Instagram ซึ่ง ณ ขณะนั้นมีพนักงานเพียง 13 คน
  • 83% ของรูปที่โพสต์มีแฮชแท็กติด
  • 40% ของผู้ใช้ Instagram อยู่ใน US
  • 70% ของผู้ใช้ Instagram เข้าเช็คความเคลื่อนไหวอย่างน้อยวันละครั้ง

ข้อคิดดี ๆ ในการเริ่มต้นทำสตาร์ทอัพจาก Kevin Systrom

“If you’ve got an idea, start today. There’s no better time than now to get going. That doesn’t mean quit your job and jump into your idea 100% from day one, but there’s always small progress that can be made to start the movement.”

ถ้าคุณมีไอเดียก็เริ่มทำมันวันนี้เลย ไม่มีเวลาไหนจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องลาออกจากงาน และกระโจนมาทำไอเดียแบบเต็มตัวในวันเดียว แต่ให้เริ่มจากเล็ก ๆ ก็สามารถให้การเริ่มต้นของคุณคืบหน้าได้

โดยส่วนตัวแล้ว Kevin ไม่อยากให้ใครก็ตามคิดว่ามันเป็นความสำเร็จในชั่วข้ามคืน หรือใช้เวลาเพียง 8 อาทิตย์ เพราะทั้งหมดมันใช้เวลามากกว่า 3 ปี (ตั้งแต่สมัย Odeo) กว่าจะกลายมาเป็นไอเดียในการทำ Instagram จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นมันไม่มีคำว่าสายหรอกที่คุณจะขุดความฝันในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง แล้วทำมันให้เป็นจริง

ข้อมูลอ้างอิง

[บทความ] Achieving overnight success: Kevin Systrom
http://joel.is/achieving-overnight-success-kevin-systrom/ 

[บทความ] How Instagram Grew From Foursquare Knock-Off to $1 Billion Photo Empire
http://www.inc.com/eric-markowitz/life-and-times-of-instagram-the-complete-original-story.html

[บทความ] How Instagram founder Kevin Systrom became insta-rich
http://articles.latimes.com/2012/apr/11/business/la-fi-instagram-systrom-20120411

[บทความ] $1 Billion In 2 Years: The Story Of Instagram, As Told By Its Founders
http://www.makeuseof.com/tag/1-billion-in-2-years-the-story-of-instagram-as-told-by-its-founders/

[บทความ] From 0 To $1 Billion In Two Years: Instagram’s Rose-Tinted Ride To Glory
http://techcrunch.com/2012/04/09/instagram-story-facebook-acquisition/

[บทความ] Inspiring Insights by Instagram CEO Kevin Systrom, The Man Who Built A $1 Billion Startup
http://www.forbes.com/sites/limyunghui/2012/04/09/inspiring-insights-by-instagram-ceo-kevin-systrom-the-man-who-built-a-1-billion-startup/

[บทความ] Snapshot of Success: Instagram’s Kevin Systrom Shares His Startup Secrets
http://mashable.com/2011/08/04/instagram-kevin-systrom/

[บทความ] 7 INSPIRING QUOTES FOR YOUR STARTUP FROM KEVIN SYSTROM OF INSTAGRAM
http://www.logomaker.com/blog/2014/01/20/7-inspiring-quotes-startup-kevin-systrom-instagram/

[บทความ] How Kevin Systrom Turned Instagram Into A Billion-Dollar Company
http://www.businessinsider.com.au/meet-instagram-ceo-kevin-systrom-2012-12

[บทความ] How Kevin Systrom got started
http://fortune.com/2014/10/10/how-kevin-systrom-got-started/

Comments

comments