เหตุผลดี ๆ ที่ผมเลือก Website เป็นช่องทางหลักในการขาย Ebook

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านนะครับ ผมมีโอกาสได้ดูคลิปวิดีโอบน Youtube ที่แนะนำให้ผู้ชมสร้างรายได้ในยุคอินเทอร์เน็ตอย่างการเขียน Ebook เสร็จแล้วนำไปวางขายบนแพลตฟอร์มอย่าง Meb หรือ Ookbee เพื่อสร้างรายได้แบบ Passive Income ผมคิดว่ามันไม่ใช่คำแนะนำที่ดีนัก เพราะอะไร

หมายเหตุ บทความนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ และมุมมองส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ

ในบทความเรื่อง แชร์ประสบการณ์ และแนวทางการเขียน Ebook สร้างรายได้แบบ Passive Income ผมเคยเกริ่นไปว่าทำไมการขาย Ebook บนเว็บไซต์ของตัวเองจึงดีที่สุด และมองการขายบนแพลตฟอร์มอย่าง Meb และ Ookbee เป็นช่องทางรอง ในบทความนี้เราจะมาลงรายละเอียดเพิ่มเติมกันครับ

หลายคนอาจจะคิดว่าการวางขาย Ebook บนแพลตฟอร์มเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนเช่าโฮสต์ และสร้างเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมา อัพโหลด Ebook ขึ้นไปที่แพลตฟอร์มเดี๋ยวก็มีคนมาซื้อ ประโยคที่ว่า “เดี๋ยวก็มีคนมาซื้อ” นี่แหละครับที่จะทำให้คุณสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไป อ่านบทความนี้จบคุณจะเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างว่าคุณเสียโอกาสอะไรบ้าง หากคุณพึ่งพาการขายบนแพลตฟอร์มเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้คุณยังมีความเสี่ยงในอนาคตอีกหากแพลตฟอร์มดังกล่าวยุติการให้บริการ นั่นเท่ากับเป็นการปิดช่องทางขาย Ebook ของคุณไปในทันที ดังนั้นอย่าฝากไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียวครับ ผมแนะนำให้คุณมีเว็บไซต์ส่วนตัวในการวางขาย Ebook ด้วย

ปัจจุบันการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องยากครับ คุณอาจจะเริ่มจากสร้างเว็บไซต์ฟรีจาก WordPress.com โดยที่ยังไม่ต้องไปลงทุนเช่าโฮสต์สักบาทก็ได้ หรือคุณจะจ้างฟรีแลนซ์ใน Fastwork ให้สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปให้กับคุณก็ยังได้ในราคาหลักพันบาท และผมก็มองว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากในระยะยาว ที่คุณจะมี Digital Assets เป็นของตัวเอง

กลับมาเรื่องการขาย Ebook ต่อนะครับ ปัจจุบันช่องทางการขาย Ebook ของผมมี 3 ช่องทาง คือ

  1. เว็บไซต์ส่วนตัว startitup.in.th
  2. Meb
  3. Ookbee

ทำให้ผมสามารถเปรียบเทียบได้ว่ายอดขาย 3 ช่องทางนี้ ช่องทางไหนให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจมากที่สุด ในการเปรียบเทียบผมขอรวม Meb กับ Ookbee เข้าด้วยกันในฐานะแพลตฟอร์มช่วยขาย Ebook

เพิ่มเติม จริง ๆ ผมวางขาย Ebook ใน ebooks.in.th ด้วย แต่เนื่องจากผมไม่สามารถ Login เข้าระบบนักเขียนด้วยบัญชี Facebook เพื่อไปดูข้อมูลได้ (มี error จากการ Login) จึงขอไม่พูดถึงเว็บไซต์ ebooks.in.th นะครับ

เปรียบเทียบรายได้จากการขาย Ebook บนเว็บไซต์ส่วนตัว กับแพลตฟอร์มช่วยขาย

ผมนำข้อมูลยอดขาย Ebook ของผม คือ Airbnb Entrepreneur 2018 โดยใช้เวลาช่วงปี 2019 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2019 – 30 เม.ย. 2019

1. รายได้จากแพลตฟอร์มช่วยขาย (Ookbee และ Meb)

  • รายได้จาก Ookbee: 389.70 บาท
  • รายได้จาก Meb: 817.27 บาท
  • รวมรายได้ 2 แพลตฟอร์ม: 1,206.97 บาท เฉลี่ยเดือนละ 301.74 บาท

ข้อสังเกต: รายได้ที่เราได้รับจะถูกแชร์ให้กับเจ้าของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ตามสัดส่วนที่กำหนด เปรียบเสมือนค่าใช้บริการแพลตฟอร์ม

แชร์ประสบการณ์ส่วนตัว แนวทางการพิจารณาช่องทางขาย Ebook ปี 2019
ยอดขาย Ebook Airbnb Entrepreneur 2018 บน Ookbee
แชร์ประสบการณ์ส่วนตัว แนวทางการพิจารณาช่องทางขาย Ebook ปี 2019
ยอดขาย Ebook Airbnb Entrepreneur 2018 บน Meb

2. รายได้จากเว็บไซต์ส่วนตัว

การขาย Ebook บนเว็บไซต์ส่วนตัว ผมมีช่องทางชำระเงิน 2 แบบ คือ 1) การชำระด้วยบัตรเครดิต/เดบิต ผ่านระบบ Gumroad และ 2) การชำระด้วยวิธีโอนเงิน แจ้งโอนทางไลน์ จากนั้นผมจัดส่ง Ebook ให้ทางอีเมล์

  • รายได้จากการขายบนเว็บไซต์ส่วนตัว ผ่านระบบ Gumroad ยอดขาย $704.36 หักลบค่าใช้ระบบประมาณ 7.5% เป็นรายได้ $651.54 หรือ 20,803.67 บาท
  • จากการขายบนเว็บไซต์ส่วนตัว แบบโอนเงิน 14,250 บาท (แบบโอนเงินผมขออนุญาตไม่ Capture Email List ที่ผมส่ง Ebook ให้กับลูกค้านะครับ)
  • รวมยอดขายบนเว็บไซต์ส่วนตัว 2 ช่องทาง 35,053.67 บาท เฉลี่ยเดือนละ 8,763.41 บาท

ข้อสังเกต: Gumroad มีค่าธรรมเนียมเพียง 7.5% ส่วนการโอนเงินจะไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ทำให้เราได้รับรายได้เต็ม ๆ ทำให้ไม่มีเศษทศนิยม

แชร์ประสบการณ์ส่วนตัว แนวทางการพิจารณาช่องทางขาย Ebook ปี 2019
ยอดขาย Ebook บนระบบ Gumroad

3. สรุปความแตกต่างในแง่ของรายได้

ความแตกต่างของรายได้จากการขาย Ebook บนเว็บไซต์ส่วนตัว และแพลตฟอร์มช่วยขาย เฉลี่ยต่อเดือนต่างกัน 8,763.41 / 301.74 = 29 เท่า รายได้รวมจาก 3 ช่องทางต่อเดือนประมาณ 9,000 บาท 3 ช่องทางนี้ทำเงินหมดครับ แต่ถ้าให้เลือกช่องทางเดียวที่เราจะยินดีจ่ายงบสำหรับการตลาด ผมขอเลือกเว็บไซต์ส่วนตัว เหตุผลคือ ค่าธรรมเนียม เดี๋ยวเรามาดูกันในหัวข้อใหญ่ถัดไป ว่าทำไมค่าธรรมเนียมถึงเป็นเรื่องซีเรียสครับ

4. ระยะเวลาที่ใช้ในการรับรายได้

อีกหนึ่งหัวข้อที่ต้องพิจารณาเพิ่ม คือ ระยะเวลาที่เจ้าของ Ebook จะได้รับรายได้ ถ้าเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว ผ่านระบบ Gumroad จะได้รับเงินทุกอาทิตย์ เช่น อาทิตย์แรกขายได้เท่าไหร่ อาทิตย์ที่สองจะเอายอดขายของอาทิตย์แรกมาจ่ายให้ โดยเงินจะเข้าบัญชี Paypal ต้องถอนมาเข้าบัญชีธนาคารเองใช้เวลาประมาณ 5 วัน ส่วนแบบโอนเงินจะได้รับเงินทันที

สำหรับ Ookbee ถ้าขาย Ebook ในเดือนแรก เจ้าของจะได้รับเงินในเดือนที่ 4 ส่วน Meb จะมี 2 รูปแบบ คือ

  • ถ้าลูกค้าซื้อ Ebook เดือนแรกแบบ Apple (In-app purchase ของ iOS) จะได้รับเงินในอีก 2 เดือนข้างหน้า
  • ถ้าลูกค้าซื้อ Ebook เดือนแรกแบบ Non-Apple จะได้รับเงินในเดือนถัดไป

สรุปข้อดี และข้อพิจารณาการขาย Ebook บนแพลตฟอร์มช่วยขาย

แม้ว่าผมจะเน้นการขาย Ebook บนเว็บไซต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่การขาย Ebook บนแพลตฟอร์มช่วยขายก็ยังมีข้อดีอย่างการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ที่แข็งแกร่ง ต่างจากการขายบนเว็บไซต์ที่สามารถถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้โดยง่ายจากผู้ซื้อ อย่างไรก็ตามบนแพลตฟอร์มช่วยขายก็ยังมีข้อที่คุณควรพิจารณาเพิ่มเติมด้วย เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. ข้อดีของการขาย Ebook บนแพลตฟอร์มช่วยขาย

  • มีระบบป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ซื้อไม่สามารถทำการคัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ต่อได้
  • ระบบจัดส่ง Ebook ให้ลูกค้าอัตโนมัติมันทีหลังชำระเงินเสร็จ ได้รายได้แบบ Passive Income
  • รองรับรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลาย

2. ข้อพิจารณาการขาย Ebook บนแพลตฟอร์มช่วยขาย

  • ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายต้องดาวน์โหลดแอพ หรือโปรแกรมสำหรับอ่านไฟล์ Ebook ของแพลตฟอร์มนั้น ๆ คนที่ไม่เก่งไอทีอาจมองเป็นเรื่องยุ่งยาก
  • ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ โดยเฉพาะการจ่ายแบบ In-app purchase บนอุปกรณ์ iOS
  • ระยะเวลาในการจ่ายเงินของแพลตฟอร์มค่อนข้างนาน

จากการเปรียบเทียบในเรื่องของรายได้ ผมมีเหตุผลมา Support ว่าทำไมการสั่งซื้อ Ebook ของผมบนแพลตฟอร์มช่วยขาย จึงต่างจากเว็บไซต์ส่วนตัวมากขนาดนั้น ด้วยเรามาลงลึกกันทีละประเด็นนะครับ

ทำไมแพลตฟอร์มช่วยขายจึงควรเป็นช่องทางรองในการขาย Ebook

1. แพลตฟอร์มไม่ช่วยดัน Ebook เล่มใหม่ ๆ

หากคุณสังเกตดี Priority ด้านการแสดงผลของ Ebook ที่เจ้าของหนังสือตีพิมพ์ด้วยตนเอง จะเป็นรอง Ebook หรือหนังสือที่มีสำนักพิมพ์จริงรองรับ น่าจะด้วยเหตุผลของชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังไม่มีระบบแนะนำหนังสือตามความสนใจของผู้ใช้ เช่น หากคุณค้นหาคำว่า “การลงทุน” แล้วย้อนกลับมาที่หน้าแรกของเว็บไซต์ จะไม่มีรายการแนะนำหนังสือที่เกี่ยวข้องกับคำที่คุณ ค้นหาไปก่อนหน้า ทำให้โอกาสที่ Ebook ของคุณเมื่อไปอยู่ในแพลตฟอร์มจะถูกค้นเจอนั้นน้อยมาก ๆ

ต่างกับ Amazon หรือ Youtube ที่ระบบสามารถวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้ แล้วนำเสนอสิ่งที่ผู้ใช้น่าจะสนใจให้ หรือที่เราเรียกว่า Recommender System วิธีการนี้ช่วยให้หนังสือเล่มใหม่ หรือคลิปวิดีโอใหม่ มีโอกาสขึ้นไปแสดงแนะนำให้ผู้ใช้เห็นบ้าง เป็นการเพิ่มโอกาสในการซื้อ หรือการรับชมวิดีโอ พอไม่มีระบบแนะนำ ก็เป็นหน้าที่ของลูกค้าเองที่จะต้องค้นหาด้วย Keyword ที่ตรงกับชื่อหนังสือถึงจะเจอ Ebook ของเรา

2. กว่าลูกค้าจะซื้อต้องลุ้นหลายอย่างด้วยกัน

ความท้าทายของการขาย Ebook บนแพลตฟอร์ม Meb หรือ Ookbee คือ เจ้าของ Ebook ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดการกระทำต่อไปนี้อย่างน้อย 2 อย่างต่อเนื่องกัน

ดูจากรูป Purchase Funnel ด้านล่างลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อต้องอยู่ในช่วง Interest แล้ว และจะต้องมีการกระทำ 2 อย่างเป็นอย่างน้อย คือ

แชร์ประสบการณ์ส่วนตัว แนวทางการพิจารณาช่องทางขาย Ebook ปี 2019

การกระทำที่ 1: ลูกค้าตั้งใจเข้าเว็บไซต์ หรือแอพของ Ookbee และ Meb ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโดยตรง หรือจากการค้นหาใน Google ก็ตาม

ความท้าทายในการกระทำที่ 1 คือ คนทั่วไปหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณ อาจไม่ได้รู้จัก Meb หรือ Ookbee หรือต่อให้มีคนรู้จักบ้าง แต่แพลตฟอร์มเหล่านั้นไม่ใช้แพลตฟอร์มที่พวกเขาเข้าไปดูทุกวันแบบ Facebook, Youtube หรือ Google ดังนั้นอัตราในการรับรู้ Ebook ของคุณก็น้อยตามไปด้วย

ผมอยากให้คุณลองจินตนาการว่าผู้คนค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการจากอะไร เช่น Google, Youtube หรือ Facebook ถ้าเป็น Google คุณควรมีเว็บไซต์ ถ้าเป็น Facebook คุณควรมี Fanpage หรือถ้าเป็น Youtube คุณควรมี Youtube Channel เป็นของตัวเอง หากคุณรู้ว่าปลาของคุณอยู่ที่ไหนก็จงพา Product (Ebook) ของคุณไปยังที่แห่งนั้นครับ

การกระทำที่ 2: ลูกค้าค้นหา Ebook โดยใช้ชื่อหนังสือโดยตรง หรือมีบาง Keyword ที่ปรากฏอยู่ในชื่อหนังสือ การกระทำนี้แสดงว่า พวกเขารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร พวกเขาจะค้นหาสิ่งที่ต้องการด้วย Keyword แล้วค่อยพิจารณาตัวเลือกอีกที

ความท้าทายของการกระทำที่ 2 คือ ต้องเกิดการกระทำแรกมาก่อน คือ ผู้ใช้เข้ามาที่แพลตฟอร์มนั้น ๆ และรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เช่น คนที่สนใจด้านการลงทุน ทำการค้นหาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนต่าง ๆ ซึ่งมีมากมาย หากคุณเขียน Ebook เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น คุณอาจเจอคู่แข่งหลายคนที่เขียนในเรื่องเดียวกัน ดังนั้นคุณต้องลุ้นให้ลูกค้าพิจารณาว่า Ebook ของคุณเหมาะกับเขามากที่สุด หรือมีเนื้อหาที่ดีกว่าคู่แข่งในสายตาของลูกค้าคนนั้น

การกระทำที่ 3: การกระทำนี้อยู่ในช่วง Consideration ของ Purchase Funnel คือ ลูกค้าได้ลองเปรียบเทียบ Ebook ที่สนใจแต่ละเล่ม และลองอ่านตัวอย่างแล้วคิดว่า Ebook ของคุณมีเนื้อหาที่ตรงกับความคาดหวังของเขา ก็จะนำไปสู่กระบวนการตัดสินใจซื้อ หากไม่ตรงกับความคาดหวังเขาก็ไปพิจารณาซื้อเล่มอื่นแทน

อ่านแล้วก็เหนื่อยครับกว่าที่ Ebook จะขายได้สักเล่มต้องฝ่าด่านอรหันต์ต่าง ๆ นานา ผิดกับการสร้าง Sale Page บนเว็บไซต์ส่วนตัวของเรา ที่ลูกค้าเข้ามาแล้วโฟกัสกับ Ebook ของเราคนเดียว ไม่ต้องไปแข่งกับใครทำให้การ Convert คนที่สนใจให้กลายมาเป็นลูกค้าทำได้ง่ายกว่าครับ

อย่างไรก็ดี ถ้าหากคุณต้องการกระตุ้นยอดขาย Ebook บนแพลตฟอร์มช่วยขาย ผมแนะนำให้คุณทำ Content Marketing อย่างเช่น เปิด Facebook Fanpage หรือเข้าไปให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายใน Facebook Groups หรือทำวิดีโอลงบน Youtube เพื่อกระตุ้นการรับรู้ Ebook ของคุณแก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายครับ

ส่วนการยิงโฆษณาบน Facebook เพื่อขาย Ebook บนแพลตฟอร์มช่วยขาย ผมไม่แนะนำถ้า Ebook ของคุณราคาไม่สูงพอ เพราะคุณต้องจ่ายเงิน 2 ต่อ ต่อแรกจ่ายให้ Facebook และต่อที่สองจ่ายให้แพลตฟอร์ม ซึ่งมีโดนอีกหลายเด้ง เดี๋ยวเรามาดูการแชร์ส่วนแบ่งรายได้กับแพลตฟอร์มในหัวข้อต่อไปครับ

3. การแชร์ส่วนแบ่งรายได้กับแพลตฟอร์ม เหตุผลที่ทำให้การซื้อโฆษณาบน Facebook ไม่คุ้ม

แม้ว่าการขาย Ebook บนแพลตฟอร์มสามารถทำได้ฟรี และไม่จำกัดจำนวนหนังสือที่วางขาย แต่ทุกครั้งที่ขายได้แพลตฟอร์มจะหักค่า Commision Fee เงื่อนไขการแบ่งรายได้ระหว่างแพลตฟอร์มกับเจ้าของ Ebook สามารถเข้าไปดูรายละเอียดตามลิงค์ด้านล่าง

3.1 การแบ่งรายได้ของ Ookbee

ขายผ่าน Apple iOS ขายผ่าน Web / Android ขายผ่าน AIS Mobile
ช่องทางการจ่ายเงิน 30 4 20
Ookbee 21 28.8 24
**เจ้าของผลงาน 49 67.2 56

3.2 การแบ่งรายได้ของ Meb

Non-Apple ของ Meb เป็นการซื้อผ่าน Credit Card, Counter Service, ATM, PayPal, 2C2P Credit Card, The 1 Card Point ทำให้อัตราตรงช่องทางการจ่ายเงินไม่ตายตัว (ตัวเลขสีแดง) เช่น ชำระผ่านบัตรเครดิต 4% ชำระผ่าน Counter Service 3.75%

ขายผ่าน Apple iOS ขายผ่าน Non-Apple
ช่องทางการจ่ายเงิน 30 4
Meb 14 19.2
Seller 0 9.6
**เจ้าของผลงาน 56 67.2

3.3 ทำไมยิงโฆษณา Facebook ไม่คุ้ม

ผมลองตั้งราคา Ebook แบบกลาง ๆ ตามความเป็นจริงไม่สูงไม่ต่ำเกินไป ราคาขายอยู่ที่ 250 บาท ลูกค้าที่ซื้อ Ebook เล่มนี้ คือ คนที่มี iPad ซึ่งนิยมการซื้ออ่าน Ebook มาอ่าน ลงทุนซื้อโฆษณา Facebook 100 บาท แล้วมีลูกค้าซื้อ 1 เล่ม

รายการ ขายผ่าน Ookbee ขายผ่าน Meb
ราคาขายของ Ebook ตั้งต้น 250 250
ลูกค้าซื้อผ่าน iOS Apple หักไป 30% -75 -75
เจ้าของแพลตฟอร์ม -52.5 -35
เจ้าของ Ebook ได้รับ 122.5 140
ซื้อโฆษณา Facebook -100 -100
รายได้หลังหักค่าโฆษณา 22.5 40

จากตัวอย่างรายได้หลังหักค่าโฆษณาถือว่าขาดทุนครับ ลงเงินไป 100 บาท ได้เงินกลับมา 22.5 – 40 บาท วิธีแก้มีหลายวิธี คือ ปรับลดงบโฆษณาลง หรือใช้งบเท่าเดิมแต่ขายได้เพิ่มขึ้น หรือเพิ่มราคา Ebook จนถึงเกณฑ์ที่เราได้กำไร แต่การขึ้นราคาก็อาจทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ยากขึ้น ยิ่งเป็นนักเขียนมือใหม่การเปิดขาย Ebook ในราคาที่สูงเลยนั้น อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะขายได้

เคสตัวอย่างนี้ลองคิดเล่น ๆ นะครับว่า ถ้าเราตัดคนกลางออกไปหมด Ebook เล่มละ 250 ผมลงเงินโฆษณาไป 100 บาท แล้วขาย Ebook ได้ 1 เล่ม หักต้นทุนค่าโฆษณา ผมจะมีรายได้ 150 บาทเลย อย่างนี้ถือว่าคุ้มครับ ประเด็น คือ ถ้าแพลตฟอร์มช่วยเชียร์ Ebook ของเรา ให้กับคนที่มีแนวโน้มสนใจ แบบที่ Amazon หรือ Youtube ทำ มันจะช่วยให้เราลดต้นทุนทางด้านการตลาดได้ครับ

แต่อย่างที่ผมได้เขียนไปแล้ว พอระบบไม่มีการแนะนำหนังสือ มันก็เป็นหน้าที่ของเจ้าของ Ebook ที่ต้องไปทำการตลาดเอง เพื่อสร้างยอดขาย และรายได้ มันเป็นสิ่งที่ควรทำดีกว่าการปล่อยให้ Ebook ดี ๆ นอนจมอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็น ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งการปล่อยปะละเลย ถือเป็นค่าเสียโอกาสอย่างหนึ่ง เพราะอะไรนั้น อ่านในหัวข้อถัดไปได้เลยครับ

ความรู้มีวันล้าสมัย อย่าปล่อยปะละเลย ตั้งแต่วันแรกที่คุณวางขาย Ebook

คุณเห็นรายได้จากการขาย Ebook ของผมในช่วง 4 เดือนแรกปี 2019 บนเว็บไซต์ส่วนตัวที่มากกว่าบนแพลตฟอร์ม Meb กับ Ookbee ใช่มั้ยครับ นั่นเป็นเพราะผมต้องออกแรงอยู่บ้างในเรื่องการทำตลาด เช่น การทำ Content Marketing อย่างการเขียนบทความให้ความรู้เกี่ยวกับ Airbnb รวมถึงการซื้อโฆษณาบน Facebook ในช่วงที่ข้อมูลของ Ebook ยังทันสมัยอยู่

หลายคนนิ่งนอนใจ ปล่อย Ebook ขึ้นแพลตฟอร์มไปแล้วคาดหวังว่า “เดี๋ยวก็มีคนมาซื้อ” โดยไม่ต้องทำอะไรต่อ เป็น Passive Income ที่แท้ทรู ผมอยากบอกคุณว่า การปล่อยให้ Ebook ของคุณนอนแอ้งแม้งอยู่บนแพลตฟอร์มช่วยขาย โดยที่คุณไม่รู้ชะตากรรมว่าเมื่อไหร่จะมีคนมาซื้อ มันทำให้คุณสูญเสียโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่กว่า คุณดูเคสผมเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ 4 เดือนผ่านไปผมมีรายได้จากการขาย Ebook บนแพลตฟอร์มเหล่านั้นแค่ 1,200 บาทเท่านั้น เทียบกับรายได้จากการขายบนเว็บไซต์ส่วนตัวที่ทำเงินให้ผมถึง 35,000 บาท ต่างกัน 29 เท่า

นอกจากเรื่องโอกาสทางธุรกิจแล้ว ยังมีเรื่องของเวลาที่คุณต้องพิจารณาด้วย โดยเฉพาะหนังสือพวก How to ที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเทคโนโลยี เพราะเนื้อหามันมีอายุของมันครับ เช่น เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน หรือ 1 ปี เนื้อหาในเล่มอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยนเร็ว พอเนื้อหาไม่ทันสมัย หรือใช้การไม่ได้ลูกค้าย่อมเลือกที่จะไม่ซื้อ Ebook ของคุณ และมองหาสิ่งอื่นที่ให้เนื้อหาที่ทันสมัยกว่า

ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ คุณควรรีบทำตลาด Ebook ของคุณให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรู้จัก ตั้งแต่แรก ๆ ในช่วงที่เนื้อหายังทันสมัยอยู่ หากการตลาดของคุณจำเป็นต้องใช้การโฆษณาบน Facebook และลองคำนวณคร่าว ๆ แล้วไม่คุ้มกับการโดนหักค่า Commision Fee จากแพลตฟอร์มช่วยขาย Ebook ผมแนะนำให้คุณมีเว็บไซต์ส่วนตัวเป็นช่องทางหลัก และใช้แพลตฟอร์มช่วยขายเป็นช่องทางรอง คือ ขายได้ก็ดี ขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

ข้อดีของการขาย Ebook บนเว็บไซต์หลัก ๆ คือ คุณเสียค่าธรรมเนียมน้อยมาก หรือไม่เสียเลย (กรณีลูกค้าชำระแบบโอนเงิน) นอกจากนี้คุณยังสามารถทำ Content Marketing เพื่อ Lead ว่าที่ลูกค้าให้เข้ามาสัมผัสกับความรู้ของคุณก่อนได้ ก่อนที่จะ Convert พวกเขาให้กลายมาเป็นลูกค้าของคุณ ในระยะยาววิธีนี้ช่วยลดต้นทุนทางด้านการตลาดได้ครับ

บทความนี้ค่อนข้างยาว เป็นประสบการณ์ และมุมมองส่วนตัวของผมเอง ในการมีรายได้เสริมจากการเขียน Ebook ขาย ผมไม่ได้แอนตี้แพลตฟอร์มช่วยขาย Ebook อย่าง Ookbee หรือ Meb นะครับ เพราะผมเองก็วางขายอยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านั้น แต่ผมอยากชี้ให้ผู้อ่านเห็นว่าเจ้าของ Ebook ได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากการขาย Ebook บนแพลตฟอร์มทั้งด้านดี และด้านที่ควรพิจารณา ในความเห็นของผม ผมแนะนำให้มองแพลตฟอร์มเหล่านั้นเป็นช่องทางรอง และใช้เว็บไซต์ส่วนตัวเป็นช่องทางหลัก

หวังว่าหลายคนน่าจะได้รับความรู้ไปไม่มากก็น้อยครับ ไว้มีโอกาสผมจะทำวิดีโอสอนการใช้งาน WordPress.com ให้กับคนที่สนใจอยากมีเว็บไซต์ของตัวเองแบบยังไม่ต้องลงทุนเช่าโฮสต์ จดโดนเมน เพื่อจะใช้ทำเป็น Sale Page สำหรับการวางขาย Ebook ของคุณเองในอนาคต แต่จริง ๆ มันก็มีข้อจำกัดหลายอย่างนะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ให้ใช้งาน ไม่สามารถลง Plug-ins เพิ่มได้ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากฝึกฝีมือก่อนลงสนามจริง เอาเป็นว่าพบกันใหม่ในบทความหน้าสวัสดีครับ

Comments

comments