เปลี่ยนเกมธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ Business Model ที่เหนือกว่า ตอนจบ

ในปัจจุบันธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด กลยุทธ์ Business Model ทั้ง 7 ในบทความเปลี่ยนเกมธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ Business Model ที่เหนือกว่า ตอนแรก แสดงให้เห็นว่าธุรกิจสามารถใช้กลยุทธ์เหล่านี้สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้อย่างไร ซึ่งผมพูดไปแล้ว 4 กลยุทธ์ ในบทความนี้เรามาว่ากันต่ออีก 3 กลยุทธ์ที่เหลือ ซึ่งผมคิดว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้ 4 กลยุทธ์แรกเลยครับ

5. ให้คนอื่นทำงานแทน

ถามตัวคุณเองดูว่า Business Model ของคุณสามารถให้ผู้ใช้หรือบุคคลภายนอกมาสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจของคุณได้ฟรีมากน้องแค่ไหน?

ในช่วงปี 50s และ 60s ทัพเพอร์แวร์สามารถทำให้เหล่าแม่บ้านหลงใหลได้ ความสำเร็จนี้มาจากพลังของช่องทางการขายตรง บริษัทเครื่องครัวได้ทำการเพิ่มฐานลูกค้า (แม่บ้าน) เพื่อให้ช่วยบอกต่อ และขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกเหล่านี้แก่แม่บ้านคนอื่น ๆ กลยุทธ์นี้ช่วยให้ธุรกิจไม่มีต้นทุนในการจ้างเซลและทำการตลาด

ตัวอย่างอื่น:  Business Model ของ Facebook นั้นใช้ประโยชน์ Content มาจากผู้ใช้ มากกว่าบริษัทอื่นบนโลก ความจริง คือ ประชากรกว่าพันล้านคนทำงานให้กับ Facebook ฟรี โดยการโพสต์ข้อความ รูปภาพ และเนื้อหาต่าง ๆ หากปราศจากการโพสต์เหล่านี้ Facebook แทบจะเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าน้อยมาก ตัวอย่างอื่น เช่น IKEA ที่ให้ลูกค้าเป็นผู้ประกอบเฟอร์นิเจอร์เอง แทนที่จะเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรืออย่างธุรกิจบัตรเครดิตที่ให้ร้านค้า และนักช็อปทำงานแทน โดยที่ธุรกิจโฟกัสเพียงการให้บริการการทำธุรกรรมทางการเงิน

ที่คุณต้องทำ: ทำอย่างไรที่คุณจะให้ผู้อื่นทำงานให้กับคุณได้

6. ความสามารถในการขยายขนาด

ถามตัวคุณเองดูว่า คุณจะทำให้ Business Model ของคุณโตเร็วและง่ายแค่ไหน โดยไม่เจออุปสรรคอย่างการเพิ่มโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการลูกค้า

ธุรกิจที่มี Business Model ที่ปรับแต่งมาแล้วว่าสามารถรองรับต้องการของลูกค้าได้นั้น มีความสำคัญและช่วยให้ธุรกิจได้เปรียบ มากกว่าธุรกิจที่มักเปลี่ยนแปลง Business Model อยู่เสมอ ลองนึกถึง Uber แอพที่เชื่อมระหว่างคนขับ Taxi กับคนที่มองหารถโดยสาร Business Model ของ Uber ไม่ต้องมาปรับเพิ่มเติมเพื่อรองรับลูกค้าจำนวน 5,000 คน หรือ 50,000 คน และที่เยี่ยมไปกว่านั้น คือ คุณค่าที่ Uber มอบให้ลูกค้ามากกว่าแค่บริการค้นหารถ Taxi เพราะทั้งลูกค้า และคนขับมีตัวเลือกมากขึ้น

ตัวอย่างอื่น: แน่นอนว่าธุรกิจดิจิทัลนั้น ส่วนใหญ่รองรับ Business Model ที่สามารถขยายขนาดได้ อย่าง WhatsApp ที่ให้บริการลูกค้ากว่า 400 ล้านคน ด้วยพนักงานเพียงแค่ 60 คน ก่อนที่จะถูกซื้อโดย Facebook อย่างไรก็ตาม Business Model ของธุรกิจที่มีหน้าร้านก็สามารถขยายขนาดได้ เช่น ร้านอาหารในสมัยก่อนเป็นธุรกิจที่ขยายได้อย่างจำกัด แต่ McDonald แสดงให้เห็นว่าทำได้ด้วยการใช้ระบบแฟรนไซส์ หรือแม้กระทั่ง License หรือใบอนุญาต ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ธุรกิจสามารถใช้เพื่อขยายขนาดได้เช่นกัน

ที่คุณต้องทำ: ทำอย่างไรที่จะให้ Business Model ของคุณมีความสามารถในการขยายขนาดได้

7. ปกป้องตัวเองจากคู่แข่ง

ถามตัวคุณเองดูว่า Business Model ของคุณสามารถปกป้องคุณจากคู่แข่งได้มากน้อยเพียงใด

กลยุทธ์สุดท้าย คือ การรวมกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อปกป้องธุรกิจของคุณจากคู่แข่ง อย่างเช่น Apple คือ หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตสมาร์ทโฟนระดับโลก แต่ Product ของพวกเขาทำไม่ได้ทุกอย่าง คุณอาจเถียงว่ายังมีสมาร์ทโฟนตัวอื่นที่ดีกว่า แต่ Business Model ของ Apple นั้นมีกลยุทธ์ที่ช่วยให้พวกเขาทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง Apple AppStore ที่เชื่อมโยงผู้ใช้ iOS หลายล้านคนเข้ากับนักพัฒนาแอพได้อย่างไร้รอยต่อ

Ecosystem นี้ยากที่จะลอกเลียนแบบ เพราะไม่ใช่เทคโนโลยี แม้จะมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดก็ตาม แต่ก็ยากที่จะกินส่วนแบ่งตลาดได้ มีเพียงแค่ Android ของ Google เท่านั้นที่สามารถสร้าง Ecosystem ขึ้นมาแข่งกับ iOS ของ Apple ได้

ตัวอย่างอื่น: Amazon Web Services หรือ AWS ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแก่ธุรกิจไอที ซึ่งเป็นธุรกิจรูปแบบ B2B และเป็นการสร้าง Ecosystem อีกหนึ่งตัวขึ้นมา โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรร่วมกันกับธุรกิจหลักของ Amazon นั่นก็คือค้าปลีก

ที่คุณต้องทำ: ทำอย่างไรที่คุณจะสามารถออกแบบ Business Model ของคุณ ที่เสมือนเป็นการสร้างคูเมืองได้ และจะทำอย่างไรที่คุณจะสามารถทำได้ดีกว่าคำถามที่ผมเคยถามไปในกลยุทธ์ทั้ง 6 ก่อนหน้า

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับกลยุทธ์ที่ช่วยให้ Business Model ของคุณนั้นเหนือกว่าคู่แข่ง โดยเนื้อแท้ Business Model เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของธุรกิจว่าสามารถที่จะสร้างรายได้ ทำให้ธุรกิจเติบโต อยู่รอด และเหนือกว่าคู่แข่งได้อย่างไรบ้าง

ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำ คือ การลงมือภาคสนาม เพื่อมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในแต่ละส่วนของ Business Model และอย่าเพิ่งตกหลุมรักไอเดียแรก แต่ให้ลองผิดลองถูก เพื่อให้ธุรกิจของคุณพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความต้องการในตลาดอยู่จริง, ธุรกิจของคุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนเหล่านั้นได้ และที่สำคัญ คือ มีคนยอมจ่ายให้กับวิธีแก้ปัญหา หรือคุณค่าที่คุณส่งมอบให้ครับ

Comments

comments