ปูมหลัง Nick Walter แรงบันดาลใจจาก The Four-Hour Work Week สู่ผู้ประกอบการคอร์สออนไลน์สอนทำแอพ


เรื่องราวของ Nick Walter เด็กหนุ่มวัย 25 ปี ผู้พิสูจน์ไอเดียคอร์สสอนทำแอพไอโฟนบน Kickstarter จนประสบความสำเร็จ ทำให้ผมสนใจเรื่องราวของผู้ประกอบการวัยรุ่นคนนี้มาก ถึงขั้นลองขุดคุ้ยลึกขึ้น และพบว่าหนังสือสุดฮิตอย่าง The Four-Hour Work Week ของ Tim Ferris มีอิทธิพลต่อเด็กหนุ่มคนนี้มากในการกระโจนเข้าสู่โอกาสทางธุรกิจด้านการศึกษา

เรื่องราวต่อไปนี้เผยให้เห็นถึงเรื่องราวของ Walter ไอเดีย แรงบันดาลใจ และการมองเห็นช่องทางที่จะก้าวสู่ผู้ประกอบการ รวมถึงรายละเอียดคร่าว ๆ ของ Udemy แพลตฟอร์มสำหรับคอร์สเรียนออนไลน์ที่ Walter ใช้เป็นช่องทางแรกหารายได้จากคอร์สเรียน ก่อนที่จะนำไประดมทุนใน Kickstarter และนี่คือเรื่องราวของ Nick Walter

ผมเกลียดออฟฟิศ ขอจ้างตัวเองดีกว่า

Nick Walter เด็กหนุ่มวัยเบญจเพส เล่าย้อนกลับไปช่วงเรียนปี 3 มหาวิทยาลัยบริคแฮม ยัง (Brigham Young University) เขาได้มีโอกาสฝึกงานกับ Pariveda Solutions บริษัทให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี เด็กหนุ่มชื่นชอบการทำงาน เพื่อนร่วมงานเอย ลูกค้าเอย แต่สิ่งหนึ่งที่เขาอึดอัด คือ การแต่งกาย

ในที่ทำงานจะบังคับให้เขาใส่กางเกงสแล็ค และเสื้อเชิ้ตโปโลแทบจะทุกวัน แทนที่จะเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนตามแบบที่เขาคุ้นเคย “ผมเกลียดมากกับการที่ต้องทำตามคนอื่นสั่ง ให้ผมเป็นอย่างนู้น ทำอย่างนี้ทุก ๆ วัน” เด็กหนุ่มกล่าว

ดังนั้นแทนที่จะเรียนให้จบแล้วหางานทำแบบคนอื่น ๆ Walter กลับมองเห็นโอกาสที่เขาจะทำเงินแบบไร้ความเสี่ยง เด็กหนุ่มตัดสินใจลงเรียนแบบพาร์ตไทม์สำหรับสองปีข้างหน้า ในระหว่างนั้นเขาจ้างตัวเองเป็นที่ปรึกษา พร้อมพัฒนาแอพไอโฟนกับเพื่อน เป็นแอพแนว How-to จำนวน 7 ตัว หนึ่งในนั้นมีแอพสอนออกกำลังกายชื่อ Weight Lifting Videos ซึ่งช่วยให้เขามีรายได้ 1,200 เหรียญต่อเดือน เหตุการณ์นี้ทำให้เขามองเห็นโอกาสที่จะทำเงินได้มากขึ้น

Tim Ferris คุณทำให้ผมได้ไอเดียนี้

ปูมหลัง Nick Walter แรงบันดาลใจจาก The Four-Hour Work Week สู่ผู้ประกอบการคอร์สออนไลน์สอนทำแอพPhoto credit: Key Concept เคล็ดวิชาในการเป็น The 4-Hour Workweek

Walter ได้รับแรงบันดาลจากหนังสือ The Four-Hour Work Week (ทำน้อยแต่รวยมาก) ของ Tim Ferris เขาจำได้ว่า Ferris เคยพูดว่า “ธุรกิจที่ดีที่สุดที่คุณควรทำ คือ ธุรกิจด้านการศึกษา” เด็กหนุ่มตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยช่วงเมษายน-พฤษภาคม ปี 2014 เลี้ยงชีพด้วยรายได้จากแอพ How-to และงานที่ปรึกษา และเมื่อ Apple ประกาศภาษาพัฒนาแอพใหม่อย่าง Swift เขาก็ปิ๊งไอเดียได้ในทันที

Walter คิดว่าเขาสามารถทำทั้ง 2 อย่างได้ในเวลาเดียวกัน คือ เรียนรู้ และสอนภาษา Swift โดยการอัดวิดีโอ และขายเป็นคอร์สเรียน “สี่วันถัดมาผมกระโจนเข้าหาเจ้าภาษาใหม่นี้ทันที ผมตื่นขึ้นมากิน เรียน สอน กิน เรียน สอน นอน ผมปิดมือถือแล้วเข้าถ้ำของผม” เขากล่าว เด็กหนุ่มทำงานในชุดนอน อัดเสียงบรรยายในขณะที่แคปหน้าจอ เพื่อสร้างคลิปวิดีโอสั้น ๆ จำนวน 50 คลิปภายในสี่วัน

Udemy เหรอ มันคืออะไร

เป็นความจริงที่ว่าหนุ่มน้อยคนนี้ ไม่เคยรู้จักกับ Udemy มาก่อนจนกระทั่งเพื่อนของเขาแนะนำ เด็กหนุ่มอัพโหลดคลิปทั้งหมดลงเว็บ Udemy สตาร์ทอัพคอร์สเรียนออนไลน์ ก่อตั้งในปี 2010 มีสำนักงานตั้งอยู่ในซาน ฟรานซิสโก ได้รับเงินลงทุน 48 ล้านเหรียญ

Udemy เสนอคอร์สเรียนกว่า 20,000 คอร์ส มีให้เรียนทุกอย่างตั้งแต่โยคะ ถ่ายรูป ไปจนถึงการเต้นสไตล์ Popping และ Locking ราคาคอร์สก็มีตั้งแต่ฟรีไปจนถึง 895 เหรียญ สำหรับการสอนเทรดหุ้น อย่าง “How to Trade Stock Options:  Profiting in Up and Down Markets

รายได้ของ Udemy มาจากการหัก 50% ของราคาคอร์ส หากเจ้าของ Content ต้องการให้เว็บช่วยโปรโมทดึงดูดลูกค้ามาเรียน แต่ถ้าหากเจ้าของ Content ดำเนินการหาคนมาเรียนเอง (ลงทุนด้านการตลาดเอง) Udemy จะชาร์จ 3% โดยหักผ่านบัตรเครดิต ส่วนที่เหลือ 97% ของเป็นของเจ้าเนื้อหา

น้ำขึ้นให้รีบตัก

Apple ประกาศปล่อย Swift ในวันที่ 2 มิถุนายน 2014 และอีก 3 วันถัดมาเด็กหนุ่มปล่อยคอร์สเรียนออกไป พร้อมประกาศว่าใครที่มาลงเรียนภายใน 24 ชั่วโมง จะได้เรียนฟรี ปรากฎว่ามีผู้สนใจสมัครเข้ามาเรียนวันแรกถึง 1,600 คน “นี่มันซัดผมกระเด็นเลย” เด็กหนุ่มกล่าว

วันถัดมาเขาเพิ่มราคาเป็น 199 เหรียญ ทำให้มีรายได้ 20,000 เหรียญ ครบ 30 วัน Walter มีรายได้ทั้งสิ้น 40,000 เหรียญ “นี่มันมากกว่ารายได้ที่ผมทำได้เมื่อปีที่แล้วซะอีก” เขากล่าว Walter ให้ Udemy ช่วยทำการตลาด โดยส่งอีเมล 60,000 ฉบับไปยังผู้ที่มีแนวโน้มสนใจจะเรียนคอร์สนี้ และเสนอส่วนลดให้ 29 เหรียญ ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่เขา 3,000 – 5,000 เหรียญต่อเดือน

Kickstarter เวทีพิสูจน์ไอเดีย

แต่แล้วโอกาสใหม่ ๆ ก็มาถึง เมื่อคนที่เคยลงเรียนคอร์สภาษา Swift อีเมลมาถาม Walter ว่าเขาสามารถเปิดคอร์สสอนทำแอพไอโฟนได้ไหม เด็กหนุ่มตัดสินใจทดสอบตลาด โดยการทำวิดีโอขึ้นมาตัวหนึ่ง ชื่อ “How to Make a Freaking iPhone App” และโพสต์ลง Kickstarter พร้อมตั้งราคาแบบ Presell จาก 199 เหรียญ เหลือเพียง 29 เหรียญ

ปูมหลัง Nick Walter แรงบันดาลใจจาก The Four-Hour Work Week สู่ผู้ประกอบการคอร์สออนไลน์สอนทำแอพPhoto credit: How to Make a Freaking iPhone App – iOS 8 Swift

Jeff Schwarting ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ม.บริคแฮม ยัง ผู้สอนคอร์สการปล่อย Product กล่าวว่า “วิธีของ Walter ตีได้ถูกจุดด้วยแคมเปญที่ชาญฉลาด สิ่งที่เขาทำมันไปปรากฎบนพื้นที่ว่างที่ Hot ที่สุด” ปกติวิดีโอสอนโค้ดเป็นอะไรที่โคตรน่าเบื่อ คุณมองไปที่หน้าจอดำ ๆ ที่ใครสักคนกำลังพิมพ์อยู่ ในขณะที่คุณฟังเขาพูด

แต่ในคลิปวิดีโอ Kickstarter นั้น Walter เต้นไปรอบ ๆ ห้องที่มีผนังอิฐแดง ประกอบเพลงแนว Electric โบกแขนไปมา พร้อมบิดตัว และแสดงให้เห็นว่าคอร์สนี้จะนำไอเดียที่คุณเขียนไว้บนกระดาษทิชชู่ ไปสู่แอพที่มีอนาคตพร้อมปล่อยลง App Store หลังจากนั้นเขาเอาผมบลอนด์มาสวม และประกาศว่า Swift ไม่ได้เกี่ยวกับ Taylor Swift เลย พร้อมร้องเพลงด้วยเสียงที่แย่มาก

หนึ่งเดือนให้หลังแคมเปญบน Kickstarter ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ช่วยให้เขาได้เงิน 66,000 เหรียญ โฆษกของ Kickstarter กล่าว่า “ใน Kickstarter มีแคมเปญเพียง 41% เท่านั้นที่ระดมทุนได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ และมีเพียง 14% ที่ระดมทุนได้มากกว่า 20,000 เหรียญ”

Shannon Hughes ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดของ Udemy กล่าวว่า “ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าจะมีเจ้าของ Content ที่สามารถทำเงินได้มากขนาดนั้นในระยะเวลาอันสั้น และยิ่งยากเข้าไปอีกสำหรับมือใหม่อย่าง Walter”

ได้เงินแล้วไปทำอะไร

หลายคนคงสงสัยว่า แล้วเขาเอาเงินเหล่านั้นไปทำอะไร เขาใช้ 350 เหรียญต่อเดือนจ่ายค่าเช่าบ้านที่เขาแชร์กับเพื่อนเมทอีก 4 คนในโพรโว, รัฐยูทาห์ และใช้กินข้าวที่ร้านอาหาร Chick-fil-A

9,000 เหรียญ เขาใช้ซื้อรถ Toyota Corolla มือสองเพราะไม่มีรถส่วนตัวใช้ ส่วนเงินที่เหลือเขาช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ (แม่เป็นนางพยาบาล ส่วนพ่อเป็นนายหน้าจำนอง ทั้งคู่ทำงานใกล้บ้านในวิลสันวิลล์ รัฐโอเรกอน และส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ Walter)

Walter มีแผนที่จะปล่อยวิดีโอตัวใหม่บน Kickstarter ซึ่งสอนการเขียนโปรแกรมลงบน Apple Watch “เมื่อเครื่องมือที่ใช้เขียนโปรแกรมออกในเดือนพฤศจิกายน ผมจะปลีกตัวออกจากโลกภายนอก 48 ชั่วโมงเพื่อทำวิดีโอขึ้นมา” เด็กหนุ่มกล่าว

Walter ไม่สนว่าเขาจะทำเงินได้เท่าไหร่ หลังจากที่ได้เงิน 66,000 เหรียญในกันยายน 2014 เดือนถัดมาเขาได้เงินอีก 3,400 เหรียญ เด็กหนุ่มพูดว่า “นี่ก็โอเคแล้วนะ เพราะเงินที่ได้มันมากกว่าค่าเช่าบ้าน และก็พอสำหรับนิสัยการกินแบบมัธยัสถ์ของผม ในตอนนี้ผมมีความสุขที่มีรายได้ 3,000 เหรียญต่อเดือน และก็น่าจะมีไอเดียบ้า ๆ เข้ามาให้ทำอีก” เด็กหนุ่มหวังว่าเขาจะจ้างตัวเองต่อไป โดยหารายได้จากการสอนควบคู่ไปกับการพัฒนาแอพ

Schwarting ทำนายว่า Walter จะประสบความสำเร็จในอนาคต เขากล่าวว่า “99% ของนักเรียนผมได้งานทำตั้งแต่ปีแรกที่จบออกไป แต่ไม่บ่อยนักที่จะเห็นคนที่สามารถทำเงินได้ถึง 100,000 เหรียญภายในปีแรก” ซึ่ง Walter ใช้เวลาเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น

สรุป

แรงบันดาลใจจาก The Four-Hour Work Week ของ Tim Ferris ทำให้ Nick Walter กระโจนเข้าหาโอกาสธุรกิจทางด้านการศึกษาในทันทีที่ Apple ประกาศภาษาเขียนโปรแกรมตัวใหม่อย่าง Swift เพียงแค่ 3 วัน Product ของเขาก็พร้อมเสิร์ฟตลาดนักพัฒนาและผู้ประกอบการที่กระหายอยากจะมีแอพไอโฟนไปโผล่บน App Store

เขาพลิกบทบาทจากโปรแกรมเมอร์ทำแอพเองขายเอง สู่ผู้ประกอบการคอร์สเรียนออนไลน์ที่ทำรายได้ให้มากกว่า นี่แสดงให้พวกเราเห็นถึงการมีวิสัยทัศน์ที่ดีของการมองไกล และลงมือทำทันทีเมื่อมีโอกาส เพราะทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตนั้นยังเปิดกว้าง และมีพื้นที่ให้เราเข้าไปเล่นอีกเยอะหากคุณหาเจอและเริ่มทำมันตั้งแต่ตอนนี้ครับ

Comments

comments