8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ
Photo credit: customercarenews.com

กระแส Sharing Economy และงานแบบ On-demand กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานและทำเงินของผู้คนในยุคอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้เชี่ยวชาญสามารถเป็นนายตัวเองทำงานจากที่บ้าน หรือออกไปรับงานจากผู้ว่าจ้างในท้องถิ่นได้ โดยมีแอพเป็นตัวขับเคลื่อน

ประโยชน์ที่ธุรกิจได้รับ คือ การที่พวกเขาสามารถ Outsource งานออกไปให้ผู้คนทั่วโลกทำได้ ส่วนฝั่งผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่รับงานเหล่านั้น ก็สามารถทำเงินได้จากทักษะหรือสินทรัพย์ที่พวกเขามี ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ธุรกิจประเภท On-demand ได้รับเงินลงทุนไปแล้วจำนวน 94 พันล้านเหรียญ และธุรกิจเหล่านี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2016 นี้

8 บริษัทที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ คือ บริษัทที่ต้องการเป็นผู้นำบริการ On-demand หรือ Sharing Economy ในอีก 10 ปีข้างหน้า เรามาดูกันครับว่าบริษัทเหล่านั้นเป็นใครกันบ้าง และพวกเขามีบริการอะไรที่สามารถเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมได้

Amazon

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: Amazon Prime now has you Covered This Christmas With Alcohol Delivery in Manhattan

อย่างที่เราทราบกันดีว่า Amazon เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจ E-commerce และในตอนนี้พวกเขาก็เริ่มให้บริการส่งสินค้าให้กับผู้คนในท้องถิ่นที่มีชื่อว่า Amazon Prime Now (บริการส่งของภายใน 1 ชั่วโมง) ในเว็บไซต์ Amazon Flex ได้เปิดรับสมัครพนักงานส่งของ โดยมีรายได้ประมาณ 18 – 25 เหรียญต่อชั่วโมง ในการส่งสินค้าให้กับ Amazon แม้ว่า Amazon เพิ่มจะเริ่มให้บริการได้ไม่นาน และกำลังขยายบริการเหล่านี้ให้กับผู้บริโภค แต่ผู้คนก็คาดว่า Amazon จะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงตลาดของบริการส่งของในอนาคตอันใกล้นี้

Uber

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: Uber ends Fukuoka pilot ride-sharing after government calls halt

Uber เป็นธุรกิจที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมขนส่งแบบดั้งเดิม ไปสู่อุตสาหกรรมการขนส่งแบบ On-demand เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างธุรกิจสาย Sharing Economy ที่ชัดเจนที่สุดในการอธิบายว่า ผู้บริโภคจะสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคด้วยกันเองได้อย่างไร โดยมีแอพทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างคนทั้ง 2 ฝั่ง

ความสำเร็จของ Uber นั้น มาจากคุณค่าของธุรกิจที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้น ด้วยการส่งมอบบริการขนส่งแบบ On-demand ในราคาที่ถูกกว่าและให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า

Lyft

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: Lyft

ผมเคยพูดถึง Lyft ในฐานะคู่แข่งของ Uber ซึ่งให้บริการแบบเดียวกัน คือ Taxi แบบ On-demand ถึงแม้ว่า Lyft จะมีมูลค่าเพียง 5.5 ล้านเหรียญเมื่อเทียบกับ Uber ซึ่งมีมูลค่า 62.5 พันล้านเหรียญซึ่งห่างชั้นกันมาก แต่ Lyft ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของธุรกิจ โดยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ GM

สัญญาณการลงทุนบ่งบอกว่า ในอนาคตคนขับอาจต้องการเรียกรถยนต์ไร้คนขับผ่านแอพ มากกว่าที่จะมีรถเป็นของตัวเอง และการที่ธุรกิจเป็นพาร์ทเนอร์กับ GM นั้น ทำให้ Lyft มีโอกาสที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของตนนั้นเติบโตต่อไปได้

LeadGenius

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: LeadGenius

LeadGenius เป็นธุรกิจช่วยวิเคราะห์ธุรกิจแบบ On-demand ที่ใช้วิธีผสมผสานระหว่างนักวิจัย กับเทคนิคการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) เพื่อช่วยให้ธุรกิจขยายฐานว่าที่ลูกค้า หรือผู้ที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจนั้น ๆ (Lead Generation) LeadGenius มีนักวิจัยจาก 40 ประเทศ และ 53% ของนักวิจัยเหล่านั้นนั้นมีดีกรีตั้งแต่ระดับวิทยาลัยหรือสูงกว่านั้น

ด้วยวิธีนี้ทำให้ LeadGenius สามารถแซงหน้าคู่แข่งที่ใช้แต่เพียง Software อย่างเดียวได้ ข้อมูลว่าที่ลูกค้าจะถูกรวบรวมมาโดยใช้เทคโนโลยีล่าสุด แต่นักวิจัยจะมีบทบาทในการเลือกและคัดกรองว่าที่ลูกค้าที่มีคุณภาพ เพื่อทำให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และมีคุณภาพสูงที่สุด

LeadGenius มีจุดเด่นที่การมีเครือข่ายนักวิจัย มันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างองค์กรแบบดั้งเดิม คือ มีพนักงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและทำงานร่วมกันเป็นทีม

LeadGenius คือหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตเร็วที่สุดเพื่อซัพพอร์ต Good Work Code ธุรกิจของ National Domestic Workers Alliance (NDWA) หรือ เครือข่ายพันธมิตรแรงงานในบ้านแห่งชาติ

Alfred

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: ​Is Alfred worthy of winning Silicon Valley’s top startup competition?

Alfred ธุรกิจสาย Sharing Economy ที่ให้บริการช่วยทำงานจิปาถะต่าง ๆ ในภาคครัวเรือน (ไม่รู้ว่าชื่อนี้ได้รับอิทธิพลมาจากชื่อพ่อบ้านของ Batman หรือ Bruce Wayne หรือเปล่า) ในแอพของ Alfred จะเป็นการรวบรวมบริการต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้คนในท้องถิ่นสามารถให้บริการผ่านแอพได้ เช่น การไปจ่ายตลาด การรับซักแห้ง และทำความสะอาดบ้าน

ด้วยแอพ Alfred ผู้ให้บริการจะเรียนรู้ว่า ในเวลานั้น ๆ ลูกค้าต้องการบริการอะไร ค่าบริการอยู่ในช่วง 15-42 เหรียญต่อสัปดาห์ และ Alfred ก็ได้ขยายการให้บริการในเมืองใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น San Francisco, Los Angeles, Washington, D.C. และ Chicago นอกจากนี้ในอนาคตพวกเขาก็มีแผนขยายไปยังเมืองอื่น ๆ อีกด้วย

Instacart

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: America’s Most Promising Company: Instacart, The $2 Billion Grocery Delivery App

Instacart หรือบริการจ้างไปจ่ายตลาดแทน โดยธุรกิจนี้จะรวบรวมนักช็อปในท้องถิ่นที่ให้บริการ เพื่อไปซื้อและส่งของชำจากร้านค้าต่าง ๆ อาทิ Whole Foods, Target, Costco, และ Safeway ให้กับลูกค้า

แม้ว่านักช็อปส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับจ้างอิสระ (Independent Contractor) แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ Instacart เปิดโอกาสให้นักช็อปเหล่านั้นสามารถสมัครเป็นพนักงาน Part-time ได้ แม้ว่าธุรกิจกำลังไปได้ดี แต่การแข่งขันที่สูงขึ้นจากคู่แข่งอย่าง Amazon Prime Now และ Walmart Grocery บังคับให้ธุรกิจจำเป็นต้องตัดรายจ่ายบางอย่างออกไป

TaskRabbit

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: TaskRabbit

TaskRabbit ให้บริการตั้งแต่ปี 2008 และกำลังขยายตัวไปตลาดใหม่ เพื่อผู้คนในท้องถิ่นสามารถนำเสนอบริการ จากความเชี่ยวชาญที่พวกเขามีได้ เช่น ช่วยขนย้ายสิ่งของ ทำความสะอาด ประกอบเฟอร์นิเจอร์ Ikea ซ่อมบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย ในปี 2013 TaskRabbit ประกาศว่าพวกเขามีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 1.25 ล้านคน และมีผู้รับจ้างอิสระเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอยู่ที่ 25,000 ราย

Google

8 บริษัทที่กำหนดอนาคตของ "เศรษฐกิจการทำงานบนอินเทอร์เน็ต"

Photo credit: Google’s Waze Is Testing A Ridesharing Service: Should Uber Be Worried?

หลายคนมักคิดว่า Google ทำแต่ธุรกิจ Search Engine แต่แท้จริงแล้ว Google มีการซอยย่อยธุรกิจของพวกเขาเข้าไปมีบทบาทในอุตสาหกรรมที่สร้างนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย RideWith เป็นธุรกิจใช้รถร่วมกัน (Ride Sharing แบบ Uber และ Lyft) ซึ่งปัจจุบันกำลังทดสอบที่อิสราเอล แอพตัวนี้เป็นผลผลิตจาก Waze แพลตฟอร์มแชร์สภาพการจราจรจากมวลชนซึ่งถูก Google ซื้อไปในปี 2013

RideWith มีทำงานคล้ายกับ Uber และ Lyft แต่ต่างกันตรงที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้ผ่านแพลตฟอร์มของ Waze เท่านั้น ใครก็ตามที่ต้องการใช้บริการรถเพื่อรับส่งไปยังจุดหมาย เพียงแค่เข้าไปที่กรอกข้อมูลการติดต่อไว้ จากนั้นแอพจะแสดงตำแหน่งคนขับในละแวกนั้นให้เรียกใช้บริการได้ทันที

กระแส Sharing Economy ได้เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเป็นนายตัวเองทำงานได้แบบเต็มเวลา หรือจะหารายได้เสริมในเวลาว่างก็ได้ ซึ่งธุรกิจทั้ง 8 ที่ได้นำเสนอไปนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายของพวกเขา คือ การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจสาย Sharing Economy ก็ต้องพึงระวังภัยคุกคามจากผู้เล่นรายใหญ่ ที่มีบางส่วนของบริการมาทับซ้อน หรือแข่งกันโดยตรง ซึ่งเราเห็นได้ชัดเจนในเคสของ Instacart ที่ต้องแข่งกับบริการจาก Amazon และ Walmart รวมถึง Uber ในอนาคต ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ธุรกิจต้องตีให้แตกในการสร้างและรักษา Community ของตนเองไว้ให้แข็งแกร่ง มิฉะนั้นแล้วธุรกิจก็อาจดับสูญได้ภายในพริบตาครับ

ข้อมูลอ้างอิง

[บทความ] 8 Companies Shaping the Future of the Booming Online Work Economy
http://www.entrepreneur.com/article/270542

Comments

comments