5 แหล่งเรียนรู้สู่การเป็นผู้ประกอบการเงินล้าน

ถ้าคุณอยากเป็นผู้ประกอบการเงินล้าน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเรียนรู้ ซึ่งแตกต่างจากการเรียนในชั้นเรียน แต่สิ่งที่คล้ายกัน คือ กระบวนการเรียนรู้ ถ้าคุณโฟกัสไปที่การทำเงินในระยะยาว แหล่งเรียนรู้ทั้ง 5 ต่อไปนี้ คือ ทรัพยากรชั้นดีที่คุณสามารถใช้เรียนรู้และฝึกฝนการเป็นผู้ประกอบการเงินล้านได้

1. ลงคอร์สเรียนออนไลน์

อินเทอร์เน็ต คือ แหล่งเรียนรู้ชั้นยอดสำหรับทุกคน ในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเงิน อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญ คือ คุณควรใช้เวลาที่มีอย่างจำกัดกับแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสม ในปัจจุบันเว็บอย่าง Lynda, Udemy และ Profit.ly คือ แหล่งคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับคนที่อยากมีเงินล้าน คุณสามารถเข้าไปลงเรียนคอร์สต่าง ๆ ในเว็บเหล่านี้เพื่อสร้างทักษะที่เอื้อต่อการทำเงินได้ ซึ่งเว็บคอร์สเรียนออนไลน์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนได้ฝึกฝนทักษะของตนเอง และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีค่าสำหรับปัจเจกบุคคลที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับตลาด และเทคนิคการทำเงิน

ส่วนตัวโดยผู้เขียน

เว็บคอร์สเรียนออนไลน์ในไทยหลัก ๆ ก็จะมี coursesquare.coskilllane.com และ taladpanya.com ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการลงทุนเล่นหุ้น การทำเงิน การตลาด การสร้างแบรนด์ การเขียนอีบุ๊ค การเขียนโปรแกรม ทำเว็บ กราฟิก SEO สอนภาษา เก็งข้อสอบ ฯลฯ

น่าเสียดายที่เว็บเหล่านี้ยังขาดคอร์สเรียนพวก Creative Skills (คือมีแต่มีน้อยมาก) เช่น พวกศิลปะทำมือ กา่รออกแบบตัวอักษร งาน Hand-made การสอนทำอาหาร การชงกาแฟ/เครื่องดื่ม ถ่ายรูป/ถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งส่วนตัวผมไปลงเรียนคอร์ส Hand Lettering ทำ Postcard ในเว็บต่างประเทศอย่าง skillshare.com แล้วลองเอามาปรับจาก Postcard มาทำเป็นลายเสื้อ T-shirt แล้วลองขายแขกที่จะมาพักจาก Airbnb ก็มีคนสั่งซื้อนะครับ รวมถึงเพื่อน ๆ ผมเองก็สั่งซื้อด้วย

งานพวก Creative Skills โดยเฉพาะงานศิลป์ งาน Hand-made มันมีแหล่งปล่อยของแบบ Worldwide คือ Etsy (ของไทยมี Blisby.com) ซึ่งผมเชียร์ให้คนไทยลองไปโพสต์งานฝีมือขายดูนะ เพราะผมเคยไปส่องก็มีร้านค้าคนไทยที่เปิดขายบน Etsy หลายร้าน เช่น ทำเคสไอโฟนรูปช้าง หรือถ้าคุณมี Skill ทำอาหารลองทำคอร์สเรียนสอนทำอาหาร หรือขนมไทย แล้วโพสต์ลง Udemy.com ก็น่าสนใจมาก ๆ เช่นกันครับ

2. อ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือเป็นวิธีที่ถูกที่สุด และให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ที่ดีเกี่ยวกับแนวทาง และเครื่องมือที่ใช้ในการทำเงิน คุณสามารถซื้อหนังสือได้จากร้านหนังสือ หรือร้านค้าออนไลน์ รวมถึงอีบุ๊คซึ่งมีราคาถูกกว่าเล่มจริง การลงทุนซื้อหนังสือสำหรับบางคน สามารถช่วยให้พวกเขาได้รับความรู้มากกว่าการไปลงเรียนในสถาบันอุดมศึกษา และแน่นอนว่าราคาก็ถูกกว่ามากเช่นกัน ดังนั้นอย่าได้ดูถูกพลังของหนังสือที่ดีเชียว

ส่วนตัวโดยผู้เขียน

ผมว่าหลายคนชอบอ่านหนังสือนะ แต่ติดที่ว่าอ่านไม่จบเลยเลิกอ่าน ซึ่งผมก็เป็นเหมือนกัน ดังนั้นในระยะหลัง ๆ ผมจึงซื้อหนังสือมาครั้งละ 1 เล่มเท่านั้น เพื่อโฟกัสอ่านมันให้จบ ถึงแม้จะช้าหน่อยก็ตาม เพราะเคยซื้อมาหลายเล่ม หยิบสลับมาอ่านไปมาไม่จบสักที

หนังสือที่ผมอ่านจะเกี่ยวข้องกับแนวไอที สตาร์ทอัพ และจิตวิทยา โดยเฉพาะสตาร์ทอัพชื่อดังผมจะชอบเป็นพิเศษ เราจะเห็นตัวละครต่าง ๆ จากซิลิคอน วัลเลย์แวะเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือดราม่าเป็นระยะ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกสนุกเวลาเจอตัวละครเหล่านี้ในบทความที่ผมรวบรวมมาเขียน Startup Story

อย่างไรก็ตามอย่าลืมเก็บบทเรียนทั้งความสำเร็จ และความล้มเหลวจากหนังที่คุณอ่าน เพื่อเอามาปรับใช้ หรือเป็นไอเดียต่อยอดธุรกิจของคุณด้วยนะครับ

3. ติดตามบุคคลที่ประสบความสำเร็จบน Social Media

คุณสามารถเรียนรู้ได้ว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เค้าทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ โดยการติดตามแนวคิด และวิธีการทำงานของคนเหล่านั้นผ่าน Social Media อย่าง Twitter LinkedIn และ Quora การเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จนั้นจะช่วยให้คุณได้เห็นว่า บุคคลที่เป็นเลิศเหล่านั้นทำธุรกิจอย่างไร และคุณอาจตกใจถ้าได้เห็นเรื่องราวเหล่านั้นปรากฏอยู่ในโลก Social Media ซึ่งเจ้าของความสำเร็จเหล่านั้นได้โพสต์เอาไว้

ส่วนตัวโดยผู้เขียน

สำหรับคนไทย Facebook, Twitter และ Youtube คือ Social Media ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คุณสามารถติดตามแฟนเพจ Account หรือ Channel ของนักธุรกิจ หรือผู้ประกอบการที่คุณชื่นชอบ เพื่อติดตามข่าวสาร ไอเดีย รวมถึงแนวคิดในการทำธุรกิจของคนเหล่านั้นได้ และถ้าหากคุณประสบความสำเร็จบ้าง อย่าลืมแชร์องค์ความรู้ และประสบก่ารณ์ที่คุณมีให้กับคนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไปด้วยนะครับ

4. เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ถ้าอยากรวยคุณต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ยิ่งเรื่องนั้นเป็น Niche ยิ่งดี เพราะคุณมีคู่แข่งน้อยในการทำธุรกิจ อย่าโฟกัสไปที่การทำเงินรูปแบบเดิม ๆ เช่น ต้องเรียนจบเป็นหมอ หรือทนายเพื่อให้ได้เงินมาก ๆ ความคิดเหล่านี้ล้าสมัยแล้ว ในปัจจุบันรูปแบบการทำเงินนั้นเปิดกว้างจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ต ดูได้จากปรากฏการณ์ Solopreneur และ Startup ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นจงคิดนอกกรอบแล้วคุณจะเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการทำเงิน

ส่วนตัวโดยผู้เขียน

ผมยืนยันอีกหนึ่งเสียงว่าการหา Niche ให้กับธุรกิจเป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบัน เพราะเราไม่สามารถสร้างสินค้า หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ ยิ่งเป็นผู้ประกอบการเดี่ยว หรือ SME ยิ่งชัดเจน เพราะติดข้อจำกัดเรื่องเงินทุน การโฟกัสตลาดที่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้คุณทุ่มพลังที่มีอยู่จำกัดไปที่จุด ๆ เดียวได้ง่ายขึ้น และทรงพลังมากขึ้นครับ

5. ความล้มเหลว และความผิดพลาด คือ ส่วนสำคัญในกระบวนการเรียนรู้ของคุณ

สิ่งที่คุณจะได้เจอจากกระบวนการเรียนรู้ของคุณ คือ ความล้มเหลว และความผิดพลาด สองสิ่งนี้สำคัญมากต่อพัฒนาการของคุณ ดังนั้นอย่าได้กลัว แต่จงตอบรับและเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ ถ้าคุณกำลังล้มเหลว จงล้มให้เร็ว ล้มให้บ่อย ๆ และล้มต่อไป ในขณะเดียวกันก็ใช้ความล้มเหลวเพื่อเรียนรู้ และปรับปรุงตัวคุณเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งคุณเรียนรู้จากความล้มเหลว และความผิดพลาดได้เร็วเท่าไหร่ คุณก็สามารถใช้มันไล่ล่าความสำเร็วได้เร็วเท่านั้น

การเรียนรู้เพื่อไปสู่การเป็นผู้ประกอบการเงินล้านนั้น มิใช่เพียงแค่การลงคอร์สเรียน การเข้าห้องเรียน และการทำการบ้าน แต่หมายถึงการเรียนรู้จากโลกรอบตัวคุณ และนำสิ่งที่ได้มาปรับใช้กับตัวคุณเอง ซึ่งประสบการณ์ที่คุณจะได้รับก็มาจากความล้มเหลว และชัยชนะของคุณเอง

ส่วนตัวโดยผู้เขียน

ผมเป็นคนหนึ่งที่ล้มเหลวจากการทำ Startup ตัวแรก ซึ่งผมเองคิดว่ามันต้อง Work เมื่อได้ฟังจากคนรอบข้างพูดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ นานา แต่สุดท้ายมันไม่ Work ครับ ความล้มเหลวที่ผมได้รับ ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองขาดอะไร แล้วทำไมเราจึงล้มเหลว และถ้าจะทำให้ล้มเหลวน้อยลงจะต้องทำอย่างไร

สำหรับสิ่งที่ได้รับก่อนความล้มเหลว คือ “กระบวนการ” (Process) สิ่งเหล่านี้ผมอ่านจากหนังสือ และบทความไม่เก็ตครับ เพราะเป็นเรื่องของภาคสนาม ต้องลองลงมือทำเองเพื่อให้ได้ประสบการณ์มาครับ สุดท้ายแม้ว่าจะล้มเหลว แต่บทเรียนนี้ก็ช่วยให้ผมได้เรียนรู้ และมีมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจที่เรียกว่า “สตาร์ทอัพ” ครับ

Comments

comments